รีเซต

ผลการค้นหา “Scuola Normale Superiore di Pisa金融文凭证书[办证网:bzw985.com]桂平Université de Rouen-Normandie设计学位证-Buy Washington State Driver” - ทรูไอดี

ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
What to eat in Washington DC
อ่าน

What to eat in Washington DC

สวัสดีค่ะทุกคนเห็นหัวเรื่องก็พอจะรู้แล้วใช่ไหมว่าวันนี้เราจะพาตระเวนไปกินนนนนงานถนัดเราเลยได้ทุกอย่างได้ทั้งวันได้ตั้งแต่เช้ายันเย็นได้ตั้งแต่ของหวานยันของคาวได้ทั้งไปคนเดียวและไปเป็นกลุ่ม โอเคพักก๊อนนน! ฮ่า ๆทุกคนอยากรู้ใช่ไหมว่าวันนี้เราจะพาไปกินที่ไหนนน... Washington DCเมืองหลวงแห่งประเทศสหรัฐอเมริกานั่นเองงงหากใครมีแพลนจะไปดีซีต้องมาอ่านเลยเด็ดๆทั้งนั้นไปกันเลยเราหิวแล้วววว Shake Shack เริ่มที่อาหารประจำชาติของชาวอเมริกันเลยละกันเบอร์เกอร์นั่นเองค่าาที่นี่เป็นที่แรก ๆ ที่เราลองแล้วชอบมาก เรามักจะสั่งSingle Shack Burgerขนมปังดีเนื้อดีผักดีชีสก็ดีไปอีกจริง ๆ แล้ว Shake Shackสาขาแรกเริ่มเปิดที่New Yorkจากนั้นจึงขยายตัวไปทั่วEast Coastใครมีโอกาสได้ไปนิวยอร์กก็อย่าลืมแวะไปชิมกันนะสาขาที่เราไปลองนั้นอยู่ที่ย่านDupont Circleและเป็นสาขาที่อยู่ใกล้โรงเรียนสอนภาษาของเราเรียกได้ว่าใหญ่ประมาณนึงเลย มีที่นั่งเพียงพอ และนอกจากเบอร์ที่เด็ดแล้วเขาก็ยังมี Friesและ Milk shakeที่ใครมาก็ต้องจัดด้วยนะทุกคน Location:1216 18th St NW, Washington, DC 20036, United States Busboys and Poets อีกร้านที่อยู่ในใจเราเสมอแถมอยู่ใกล้บ้านอีก เดินเพียง 10 นาทีก็ถึง ร้านอาหารสไตล์อเมริกันที่ไม่เป็นเพียงร้านอาหาร แต่ยังเป็นร้านกาแฟ บาร์ และร้านหนังสืออีกด้วย เรียกได้ว่าที่เดียวจบครบทุกสิ่ง ร้านนี้ค่อนข้างกว้าง มีทั้ง Outdoor และ Indoor table ให้เราเลือกนั่งได้ตามสะดวกเลย เมนูเด็ด (สำหรับเรา) ก็คือ Grilledchicken hot panini สิ่งนี้จะเป็นแซนวิชอุ่นที่ข้างในจะเป็นไก่ย่างและผักชนิดต่าง ๆ เสริฟ์คู่กับ Sweet potatoes friesโอ้โหทุกคน หลังจากนั้นเราเลิกกิน French fries ไปเลย อีกเมนูที่เราและเพื่อนๆชอบสั่งก็คือ Nachos เด็ดไม่แพ้กัน ร้านนี้เองไม่ได้มีดีแค่อาหาร แต่บรรยากาศก็ยังดีมาก ๆ ต้องมาลองนะ Location:625 Monroe St NE, Washington, DC 20017, United States Vapiano ร้านอาหารอิตาเลียนในย่านไชน่าทาวน์ทุกครั้งที่มาที่นี่เราจะสั่ง Fusilli carbonara ที่รสชาติถูกปากสุด ๆสำหรับเราแล้วจึงให้ผ่าน นั่นทำให้ร้านนี้เป็นอาหารอิตาเลียนร้านโปรดของเรากับเพื่อน ๆบอกไว้ก่อนเลยว่าวิธีการสั่งอาหารและจ่ายเงินของร้านนี้ไม่เหมือนใครเพราะจะเป็น Self serviceที่หลังจากเข้าประตูมาเราจะพบกับเคาน์เตอร์ที่เราสามารถเราบัตรคูปองคล้ายๆกับที่เราทานที่ Food courtแต่เรายังไม่ต้องจ่ายเงินนะรับบัตรมาแล้วเราก็ไปต่อแถวสั่งอาหารตามช่องที่เราสนใจได้เลยแต่ละแถวจะมีเชฟหนึ่งคนที่ทำหน้าที่รับออเดอร์แสกนบัตรและปรุงอาหารให้เราดูตรงหน้าเลยเรียกว่าคนเดียวทำทุกอย่างจริง ๆสั่งอาหารเสร็จแล้วเราจะได้เครื่องวงกลมที่จะสั่นเมื่ออาหารของเราเสร็จทีนี้เราก็ไปรับและให้เชฟเอาบัตรไปแตะเพื่อแสกนราคาเข้าบัตรหลังจากเราทานเสร็จก็เอาบัตรนั้นกลับไปจ่ายที่เคาน์เตอร์เดิมได้เลย Location:623-625 H St NW, Washington, DC 20001, United States Reren Ramen & Bar ไหน ๆ เราก็พูดถึงไชน่าทาวน์แล้วจัดไปอีกร้านเลยละกัน นี่คือร้านราเมนสไตล์จีนที่เพื่อนคนจีนของเราพาไปทานพูดเลยว่าอร่อยไม่แพ้ราเมนญี่ปุ่นเลยมาทุกครั้งเราจะต้องสั่งDan-Dan Noodleที่มาเสริฟ์ด้วย Portionที่ใหญ่มาก ๆสิ่งนี้จะคล้ายก๋วยเตี๋ยวแห้งบ้านเราเส้นละหมี่ลวกมากับผักและเพิ่มด้วยหมูสับไข่และถั่วรวม ๆ กันแล้วรสชาติดีมาก ๆเตือนไว้ก่อนเลยว่าร้านนี้คนจะเยอะมากในช่วงเย็นเพราะถึงแม้จะมีสองชั้นแต่บางครั้งโต๊ะก็ยังไม่พอดังนั้นถ้าจะไปตอนเย็นเราแนะนำไปรับคิวไว้รอเล้ย Location:817 7th St NW, Washington, DC 20001, United States เป็นยังไงบ้างทุกคน หากมีโอกาสได้ไปดีซีอย่าลืมแวะไปชิมกันนะ ยังไงช่วงนี้ดูแลรักษาสุขภาพกันดี ๆ น้าาา Photo by Tarinook

Cafe de river อยากชวนเธอมาสูดอากาศริมโขง ✕ Chiangkhan river mountain resort
อ่าน

Cafe de river อยากชวนเธอมาสูดอากาศริมโขง ✕ Chiangkhan river mountain resort

❝ 𝘾𝙖𝙛𝙚 𝙙𝙚 𝙧𝙞𝙫𝙚𝙧 ✕ Chiangkhan river mountain resort ❞ Cafe de' river — อยากชวนเธอมาสูดอากาศริมโขง บรรยากาศแสนปลอดโปร่ง กันที่เชียงคาน จังหวัดเลย / ที่ เชียงคาน ริเวอร์ เมาท์เทน รีสอร์ท มีร้านอาหาร + คาเฟ่น่ารัก ๆ พร้อมบริการโรงแรมที่พัก ที่มีรูปแบบให้เลือกมากมายหลากหลายประเภท โอกาสดี ๆ หรือวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ เห็นทีจะต้องหาเวลามาพักผ่อนกันบ้างแล้ว / ช่วงนี้ทางรีสอร์ทยังมีมุมสวนผัก + สวนดอกไม้น่ารัก ๆ ไว้ให้ถ่ายรูปกันด้วย ใครอยู่ใกล้ๆ หรือได้มีโอกาสมาเที่ยวที่เชียงคาน อย่าลืมแวะมาถ่ายรูปกันได้นะ พิกัด https://goo.gl/maps/Basx3N1dik...   ● Cafe de' river ตั้งอยู่ภายในโครงการ เชียงคาน ริเวอร์ เมาท์เทน รีสอร์ท ลูกค้าสามารถจอดรถได้ที่ด้านหน้าโรงแรม แล้วเดินมายังร้านอาหาร + คาเฟ่กันได้เลย (ตามแผนที่จะอยู่หมายเลข 8) ตัวคาเฟ่จะตั้งอยู่ใกล้ชิดติดกับริมแม่น้ำโขง โซนที่นั่งก็มีทั้งโซนในร่มและโซนกลางแจ้ง สามารถเลือกนั่งได้ตามใจชอบ มีจุดถ่ายรูปมากมาย ทั้งเก้าอี้ซุ้มดอกไม้ เก้าอี้รังนก หรือจะเป็นทางเดินลอยฟ้าที่ทอดยาวอยู่บนสวน ก็สวยงามน่ารักไปอีกแบบ ● สูดอากาสกันให้เต็มปอด แล้วไปหาของอร่อย ๆ ทานกันได้แล้ว / ที่ Cafe de river มีเมนูให้เลือกทานมากมาย ทั้งเมนูอาหารไทย อาหารท้องถิ่น, a la carte, pizza รวมไปถึงเมนูของว่าง ของหวานแสนอร่อย และเครื่องดื่มนานาชนิด โดยมื้อนี้ มีเมนูมาแนะนำ คือ เมี่ยงกระด้ง (350.-) ที่ใช้เนื้อปลาหั่นแบบพอดีคำ แล้วนำไปทอดจนเหลืองกรอบ นำมาห่อกับผัก (ที่ปลูกเองและเป็นผลผลิตของทางรีสอร์ท) พร้อมเครื่องเคียงและน้ำจิ้มสูตรพิเศษ อร่อยเด็ดเข้ากันมาก ๆ / ขนมจีนแกงไก่ (89.-) รสชาติไทย ๆ ออกหวาน ทานคู่กับผักสดและถั่วงอกก็อร่อยใช้ได้ เมนูสุดท้ายเราชอบมาก ขนมเบื้องญวน (99.-) สูตรนี้แป้งจะกรอบ รสชาติกลมกล่อม เสิร์ฟมาบนใบตองสุดน่ารัก และยังอร่อยถูกปากและทานง่าย ● ใครที่พก laptop มานั่งทำงาน หรือจะมานั่งอ่านหนังสือยามบ่าย ที่นี่ก็มี free wifi และปลั๊กไฟไว้ให้บริการกันแทบทุกจุด / รับประทานอาหารเสร็จแล้ว ได้เวลาพาไปชมมุมถ่ายรูปมุมอื่น ๆ กันบ้าง บริเวณด้านล่างของคาเฟ่ ยังมีทางเดินลอยฟ้า, ที่นั่งชิล ๆ แบบห้อยขา ที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขง และทุ่งดอกไม้สวย ๆ ได้ด้วย ใครมาช่วงฤดูหนาว ตอนเช้า ๆ ยังสามารถมองเห็นไอหมอกบนผิวน้ำได้ด้วยนะ / มองไปที่ฝั่งตรงข้ามคือ เมืองชะนะคาม ของประเทศลาว / วิวดี ๆ บรรยากาศดี ๆ แบบนี้ อารมณ์ก็พลอยสุนทรีย์ไปด้วย ● แม่น้ำโขงช่วงนี้ ก็จะมีความใส ๆ หน่อย ให้ความรู้สึกและอารมณ์ที่แตกต่างไปจากเดิม สวยและโรแมนติกไปอีกแบบ (#ฉันมารอพี่ที่ท่าน้ำทุกวันเลยนะ) / กระโจมดอกไม้ก็โทนสีสวย แถมยังเข้ากัน ๆ กับแปลงดอกไม้ด้านล่าง #ใครอ้างว้างให้มานั่งตรงนี้ ● เดินเล่นกันสักพัก ก็อยากทานของว่างกันอีกแล้ว / ของหวานของ Cafe de river ก็มีให้เลือกเยอะมาก เมนูแนะนำต้องยกให้ Honey toast (179.-) จานใหญ่ ๆ ที่เสิร์ฟมากับผลไม้หลากหลายชนิด / ปังกรอบสังขยา (79.-) อันนี้ก็หอม กรอบ อร่อย รู้เลยว่าทำสดใหม่ ตัวสังขยาหอมข้นหวานมันกำลังดี และยังมีเค้กอีกหลากหลายรสชาติให้เลือกชิมกันอีกด้วย ● แดดร่มลมตก ช่วงเย็น ๆ  จะพาไปเดินเก็บผัก และนั่งพักผ่อนริมชายโขง / ที่ เชียงคาน ริเวอร์ เมาท์เทน รีสอร์ท ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้ทำอีกเยอะมาก ทั้งเดินชมแปลงผักปลอดสารพิษ, ร่องเรือชมริมฝั่งแม่น้ำโขง หรือจะมาเดินเล่นที่สะพานไม้ไผ่ ก็ slow life ไปอีกแบบ ใครชอบกิจกรรมไหน ก็สามารถเลือกทำได้ตามสบายเลยนะ ● ในแปลงผัก มีทั้งผักกาดหอม ต้นหอม ผักชี ซึ่งผักทั้งหมดนี้ จะนำไปเป็นส่วนประกอบให้กับร้านอาหาร ห้องอาหาร รวมถึงร้านคาเฟ่ของทางรีสอร์ทอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นโรงแรมสีเขียว ที่มีผลผลิตเป็นของตนเอง เป็นการปลูกผักแบบออร์แกนิคปลอดสารพิษ, มีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในรีสอร์ท และยังทำให้ลูกค้าอย่างเรา ๆ ปลอดภัยจากสารเคมีตกค้างไปด้วย / มาดูเมนูของมื้อเย็นกันบ้าง มื้อนี้ประกอบไปด้วย ซ่าปลาน้ำโขง (รสชาติคล้ายกับลาบผสมยำตะไคร้ กลิ่นสมุนไพรหอม รสชาติเข้มข้น) ไข่เจียวหมูสับ อันนี้ชอบเป็นทุนเดิม ผัดผักรวมมิตรกุ้งสด ผักกรอบสด กุ้งตัวเน้น ๆ และ ต้มยําซี่โครงหมู ทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยฟินมาก ๆ ● ใครอยากชมห้องพัก คืนนี้ เรานอนกันที่นี่ด้วยนะ / ที่ เชียงคาน ริเวอร์ เมาท์เทน รีสอร์ท มีห้องพักให้เลือกกว่า 6 รูปแบบ ได้แก่ ห้อง Superior room, Deluxe room, Deluxe river room, Junior deluxe suite, Super Deluxe Suite และ Family room โดยห้องพักที่เราเลือก คือ Deluxe river room ที่มีขนาดห้อง 36 sqm. จุดเด่นของห้องนี้ จะอยู่ตรงที่มีระเบียงหน้าห้องที่สามารถนั่งพักผ่อนชมวิว หรือจะเดินออกมาสูดอากาศริมสวนยามเช้า แถมยังอยู่ใกล้ชิดริมฝั่งโขงด้วยเด้อ ● Deluxe room ขนาดห้องพัก 36 sqm. เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว และชมวิวมุมสูง ห้องนี้ก็จะมีระเบียงเหมือนกัน สามารถชมวิวแม่น้ำโขงได้ด้วย ใครมาเที่ยวกันแบบคู่รัก ห้อง type นี้ก็เหมาะมาก ๆ ● Junior Deluxe Suite room ขนาดห้องพัก 50 sqm. ห้องนี้เหมาะสำหรับคนที่มากันแบบครอบครัว หรือมากันเป็นหมู่คณะ ภายในห้องพักมีขนาดกว้างขวาง มีอ่างอาบน้ำ, shower แยกสัดส่วนชัดเจน พร้อมระเบียงชมวิวแม่น้ำโขง และเตียงขนาดใหญ่ 2 เตียง ● ในส่วนของมื้อเช้า มีบริการทั้งที่ห้องอาหารของทางรีสอร์ท (ที่เป็นแบบ buffet) และที่ Cafe de river (Made to order) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าที่มาเข้าพักในแต่ละวัน *จะมีพนักงานโทรแจ้งให้ทราบอีกครั้งว่าจะให้บริการที่จุดไหน #ไม่ต้องสับสน / เช้าวันนี้มีเมนู ไข่กระทะ ขนมปังเวียดนาม และเมนูท้องถิ่นอย่าง " ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว " จุดเด่นของเมนูนี้ อยู่ที่การนำเอาเส้นขนมจีน มาต้มรวมกับน้ำซุปและเครื่องในหมู เป็นเมนูแสนอร่อย ที่หารับประทานกันไม่ได้ง่าย ๆ ● จุดถ่ายรูปบริเวณ Cafe de river ก็เยอะมาก ๆ ใครอยากมาเดินย่อยอาหารหลังทานข้าว ก็อย่าลืมแวะมาเดินเล่นที่ สะพานไม้ไผ่กันได้นะ / ส่วนใครที่ชอบปั่นจักรยาน, นั่งกระโจมริมโขง หรือจะนั่งปิคนิคกับเต็นท์กระโจมพร้อมพร็อพถ่ายรูปสวย ๆ ที่นี่ก็จัดเตรียมสถานที่ไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยว ได้อย่างสวยงาม และหลากหลายจุดมาก ๆ ● ปล่อยให้ภาพ และ บรรยากาศพาไป / สวนดอกไม้ (ดอกคัตเตอร์) ก็กำลังเบ่งบานกันอย่างเต็มที่ / ท่านใดกำลังมองหาสถานที่พักผ่อน โรงแรมที่พักริมโขง ร้านอาหาร + คาเฟ่แสนอร่อย พร้อมมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ไปอวดเพื่อน ๆ ละก็... ที่ Chiangkhan river mountain resort และ Cafe de river ยินดีต้อนรับและคอยให้บริการทุกท่านกันอยู่นะ บรรยากาศริมแม่น้ำโขงช่วงนี้ก็กำลังดีมาก ๆ เลย ใครอยากมาสัมผัสบรรยากาศสวย ๆ แบบพวกเรา อย่าลืมแวะเวียนมาเที่ยวกันได้นะ / ก่อนเดินทางกลับ ขอฝากท้องไว้ที่นี่อีกสักมื้อ ก็อาหารของ Cafe de river อร่อยถูกปากพวกเรามาก ๆ เลยนี่นา.. ● เมนูที่เห็นจะเป็น กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา, ปลาผัดฉ่า ยำหมูยอ และแกงส้มชะอมกุ้ง อย่างที่บอกรสชาติอาหารของที่นี่กำลังดี ไม่จัดจ้านมาก ใครชอบรสกลาง ๆ แนะนำที่นี่เลย ทางร้านยังมีเมนูให้เลือกทานมากมายหลากหลายประเภท / บทความนี้ ต้องลากันไปก่อนแล้ว *หากท่านใดสนใจที่พักริมโขงบรรยากาศดี ๆ แถมมีคาเฟ่สวย ๆ ให้บริการแบบนี้ ฝาก เชียงคาน ริเวอร์ เมาท์เทน รีสอร์ท ไว้ในอ้อมใจด้วยนะ... แล้วมาแวะ check-in ถ่ายรูปไปด้วยกันจ้า 💙 Facebook : https://www.facebook.com/chiangkhanrivermountain/ 💙 Facebook : https://www.facebook.com/CafedeRiver 🌐 www.chiangkhanrivermountain.com ✉️ chiangkhanriver@gmail.com 📗 https://line.me/R/ti/p/%40ckrm 📞 042-822191, 082-7456377, 082-3163615 🚗 พิกัด : https://goo.gl/maps/Basx3N1dik... https://www.youtube.com/watch?v=VF-bEn2YAis #เชียงคาน # ที่พักเชียงคาน #คาเฟ่เชียงคาน #Chiangkhanrivermountain #Cafederiver

"K-POP DRIVE-IN CONCERT" ส่อง New Normal ของการจัดคอนเสิร์ตในเกาหลี
อ่าน

"K-POP DRIVE-IN CONCERT" ส่อง New Normal ของการจัดคอนเสิร์ตในเกาหลี

  อัน นยอง ฮาเซโย! สวัสดีค่าทุก ๆ ท่าน สำหรับวันนี้! ผู้เขียนจะนำผู้อ่านที่น่ารัก เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล เพื่อไปส่องวิถี “New Normal” ในแบบฉบับของเกาหลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีกิมมิคและเอกลักษณ์ ที่โดดเด่นในด้านการผลิตความบันเทิง และด้วยอิทธิพลของ K-POP ก็ส่งผลให้ประเทศเกาหลี มีการปรับเปลี่ยนเพื่อใช้ New Normal ในรูปแบบที่น่ารักน่าเอ็นดู โดยจะเป็นอย่างไรนั้น? ก็มาติดตามไปพร้อม ๆ กันเลยค่า ​K-POP Drive-In Concert มาแล้วจ้าาาาา !         กระแสความนิยมของการรับฟัง  K-POP เกาหลี ไม่เคยจะจางหายไป ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใดก็ตาม เพราะความนิยมในการชมคอนเสิร์ตของชาวเกาหลีนั้น ได้กลายมาเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมหลักที่สำคัญไปแล้ว ดังนั้น ต่อให้เกิดสถานการณ์โควิด-19 เกิดขึ้นในเกาหลีก็ตาม แต่ความรักในตัวศิลปิน รวมถึงการสนับสนุนด้วยการชมคอนเสิร์ตของศิลปินเหล่านั้น ก็ยังคงเป็นความปรารถนาที่แรงกล้าอยู่เช่นเดิมค่ะ       โดยการจัดงานรูปแบบนี้ในเกาหลีนั้น เริ่มต้นจากการที่ผู้จัดงาน ได้เล็งเห็นความสำคัญของการลดภาวะความเครียด ในยุคที่มีการระบาดของโควิด-19 นั่นเอง จึงส่งผลให้เจ้าภาพของงานอย่างบริษัทชั้นนำระดับโลก Hyundai motor ได้ริเริ่มในการจัดกิจกรรม drive-in concert ที่ว่านี้ขึ้นมา ภายใต้แนวคิดที่ว่า “เพราะการชมคอนเสิร์ต ได้กลายเป็นกิจกรรม ที่เปรียบเสมือนวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของคนเกาหลีไปแล้ว” Do and Don’t ถ้าจะไป Drive-In concert         โดย Drive-in concert ก็คือการเข้าชมคอนเสิร์ต ในรูปแบบที่ว่า ผู้เข้าชมจะต้องมีรถยนต์ส่วนตัว และขับรถนั้นเข้าไปจอดในที่ ๆ ถูกจัดไว้ให้เป็นเวทีสำหรับการแสดงคอนเสิร์ตนั่นเอง และกฎข้อห้ามที่สำคัญที่สุดในการรับชมคือ ผู้ชมจะไม่สามารถออกมานอกตัวรถได้ โดยจะอนุญาตเพียงแค่ การโบกไม้โบกมือให้กำลังใจศิลปินได้เท่านั้น แต่ก็ยกเว้นให้สามารถโผล่ศีรษะออกมาได้นิดหน่อย เพื่อที่จะได้มองเห็นศิลปินที่คุณชื่นชอบได้อย่างชัดเจนขึ้น และก่อนการเข้ารับชมคอนเสิร์ต ผู้เข้าชมจะต้องขับรถของตัวเองเข้ามาต่อคิว เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ ได้ทำการวัดอุณหภูมิร่างกาย ก่อนที่จะอนุญาตให้นำรถเข้าไปจอดหน้าเวทีคอนเสิร์ตได้ ซึ่งนับเป็นมาตรการที่เป็นไปตามหลักสากลปฏิบัติ ในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อได้อย่างถูกวิธีเลยล่ะค่ะ สาวก  K-POP ให้การตอบรับกันอย่างล้นหลาม! โดยการจัดคอนเสิร์ตในรูปแบบนี้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก เนื่องจากผู้ชมมองว่า เป็นการเข้าชมไลฟ์คอนเสิร์ตในแบบที่ปลอดภัยในระดับหนึ่ง เนื่องจากจะไม่มีการสัมผัสตัวกับผู้เข้าชมท่านอื่นเลย ทำให้ลดความเสี่ยงในการรับเชื้อได้เป็นอย่างดี ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2563 มีรายงานจากสื่อต่าง ๆ ว่า ทางฮุนไดมอเตอร์ ได้เนรมิตเวทีคอนเสิร์ตขึ้นที่เมือง GOYANG โดยมีเหล่าศิลปินนักร้องตอบรับการร่วมไลฟ์คอนเสิร์ตในครั้งนี้หลายท่านเลยทีเดียว เช่น Kim Tae Woo นักร้องชื่อดังในวัย 38 ปี ที่รู้จักกันในนามของอดีตสมาชิกวง g.o.d นั่นเองค่ะ รวมไปถึงจำนวนผู้เข้าชม ที่มีมากกว่า 100 ท่าน ก็เลยทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนานสุดเหวี่ยง ไม่แพ้ในภาวะปกติกันเลยทีเดียวค่ะ ทั้งแสง สี และเสียง ก็ดังกระหึ่ม สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าชมเป็นอย่างมาก มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนของศิลปินหลาย ๆ วง แทนที่จะมีศิลปินเพียงแค่วงเดียวเหมือนในคอนเสิร์ตปกติ ทำให้ผู้เข้าชมได้รับความบันเทิงในแนวเพลงที่หลากหลายตามไปด้วย และเมื่อทางสื่อต่าง ๆ ได้ทำการสอบถามความรู้สึกของผู้เข้าชม ต่างก็ให้ความคิดเห็นไปในแนวทางเดียวกันที่ว่า “รู้สึกสนุกมาก มีความสุข แต่รู้สึกผ่อนคลายที่ได้ออกมาชมคอนเสิร์ตในวันนี้ และหากมีการจัดในเวทีอื่น ๆ อีก ก็จะเดินทางไปร่วมรับชมด้วยแน่นอน” คิดเหมือนกันกับผู้เขียนไหมคะ ? ว่าเมื่อได้ฟังเรื่องราวการใช้ New Normal ในการรับชมคอนเสิร์ตของชาวเกาหลีแล้ว ก็ทำให้รู้สึกหัวใจพองโต อิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะมันช่างเป็นเรื่องราวที่น่ารัก น่าประทับใจ และน่าชื่นชมในแง่ของการให้ความร่วมมือจากประชาชนในทุกภาคส่วน เพื่อให้วิถีชีวิตใหม่ต่อจากนี้ เป็นไปในแนวทางที่ถูกที่ควร เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้โรคนี้กลับมาระบาดอีกในประเทศของตนนั่นเองค่ะ ผู้เขียนเชื่อว่า ในเวลาไม่นานต่อจากนี้ เราน่าจะได้เห็นการแสดงคอนเสิร์ตในรูปแบบของ Drive-in Concert ถูกเนรมิตให้เกิดในบ้านเราอย่างแน่นอน เพราะถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่ทางค่ายเพลงและตัวศิลปิน จะได้ใช้เวทีนี้ในการติดต่อสื่อสารกับฐานแฟนคลับของตนเอง เพื่อไม่ให้เป็นการห่างเหินกันไปนาน ๆ จนทำให้เกิดความคิดถึงที่มากขึ้นตามไปด้วยยังไงล่ะคะ แต่หากเกิดขึ้นจริง ก็อย่าลืมที่จะปฏิบัติตามกฎ ทั้งในส่วนของผู้จัดงานและมาตรการจากภาครัฐอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการปกป้องตัวเรา ครอบครัว และการรับผิดชอบต่อสังคม ในการไม่รับเชื้อ หรือส่งต่อเชื้อให้กับผู้อื่น โดยเฉพาะกับคนที่คุณรักนะคะ สำหรับวันนี้ ! ก็คงต้องขอลากันไปด้วยภาษาเกาหลีที่ว่า “โตมัน นับชีดา” แล้วพบกันใหม่ ! สวัสดีค่า ขอขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่1 โดย Pixabay ภาพที่ 2-5 โดย CGTN (แคปหน้าจอจากคลิป)            

"โตโน่" เขียนจดหมายถึง One Man & The River ทุกคน
อ่าน

"โตโน่" เขียนจดหมายถึง One Man & The River ทุกคน

หลังจากที่ นักร้อง นักแสดง "โตโน่ ภาคิน คำวิสัยศักดิ์" ทำภารกิจว่ายน้ำข้ามโขงสำเร็จ เพื่อระดมทุนหาเงินสนับสนุน 2 โรงพยาบาลทั้งไทยและลาว คือ โรงพยาบาลนครพรม และ โรงพยาบาลแขวงคำม่วน ซึ่งยอดบริจาคกว่า 80 ล้านบาท และเจ้าตัวได้มีการปรึกษาหารือ ทั้ง 2 รพ.ในการซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เรียบร้อยแล้ว และเจ้าตัวขอบวชตอบแทนทุกคน ในวันที่ 9 ม.ค 66 ภาพจาก ig : mootono29ภาพจาก ig :maenalinthon_family ภาพจาก ig :maenalinthon_familyภาพจาก ig : mootono29 ล่าสุด โตโน่ เขียนจดหมายถึง One Man The River ทุกคน 🇹🇭🇱🇦 โดยมีข้อความร่ายยาวว่า "คนนครพนม คนแขวงคำม่วนเคยบอกกับผมว่า เขามี 3 ที่สุดของที่นี่คือ 1.พระธาตุพนม พระธาตุศรีโคดตะบองและพระธาตุประจำวันเกิด "ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด" 2.สะพานมิตรภาพ3 "สวยงามที่สุด" 3.ทิวทัศน์ริมฝั่งโขง "งดงามที่สุด" แต่ต่อจากนี้โรงพยาบาลนครพนม และแขวงคำม่วน คุณหมอ คุณพยาบาล และพวกเราทุกคนจะช่วยกัน ทำให้มีที่สุดอันที่ 4 เกิดขึ้น คือ "ปลอดภัยที่สุด" เราจะสร้าง Cath Lab หรือศูนย์สวนหัวใจและหลอดเลือดให้กับโรงพยาบาลนครพนม เพราะโรคหลอดเลือดหัวใจ ทำให้พี่น้องเราจากทั้ง 2 ฝั่งโขงเสียชีวิตติดอันดับ 1 และมีคนป่วยจากโรคนี้เพิ่มขึ้นทุกปี ที่ผ่านมาเวลาเกิดเคสที่นี่ต้องส่งไปที่อุดรธานี สกลนคร ขอนแก่น อุบลราชธานี ซึ่งใช้เวลาหลายชั่วโมง ทำให้พี่น้องเสียชีวิตเยอะมาก ในอนาคตที่ท่านผู้อำนวยการบอกผมว่า นครพนมจะสามารถสร้างนักเรียนแพทย์ขึ้นได้ด้วย และแผนกนี้จะสามารถพัฒนาไปรักษาโรคหลอดเลือดในสมองได้อีก ส่วนโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาวจะได้อุปกรณ์การแพทย์ที่คุณหมอ คุณพยาบาลอยากได้มากที่สุด กว่า 20 รายการเช่นกัน เพื่อให้มีเครื่องมือที่ดีที่ทันสมัย เพื่อพี่น้องชาวลาว ชาวไทยและนักท่องเที่ยวทุกคน อาทิเช่น เครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อน ชุดกล้องส่องตรวจกระเพราะอาหารและลำไส้ใหญ่ เครื่องอัลตร้าซาวด์ ตู้อบเด็กที่คลอดก่อนกำหนด เครื่องกระตุ้นหัวใจ อุปกรณ์ผ่าตัดสมอง ห้องผ่าตัด ชุดต่อมลูกหมากและชุดสลายนิ่ว เป็นต้น ต่อจากนี้จะเป็นหน้าที่ของท่านผู้อำนวยการ คุณหมอ คุณพยาบาล จากทั้ง 2 ฝั่งไทยลาว คุณหมอที่ปรึกษาช่วยกันเลือก สิ่งที่ดีที่สุด เหมาะสมและยุติธรรมที่สุดเพื่อโรงพยาบาลของเรา ขอบคุณน้ำใจของคนไทย คนลาว และทุกๆคนที่มาช่วยกันในครั้งนี้ ผมเป็นเพียงตัวเชื่อมเล็กๆ ทุกอย่างที่สำเร็จได้ "เพราะทุกคนครับ" 🇹🇭🇱🇦" ภาพจาก ig : mootono29 ภาพจาก ig : mootono29ภาพจาก ig : mootono29ภาพจาก ig : mootono29ภาพจาก ig : mootono29ภาพจาก ig : mootono29

สรุป! Taxi Driver 2 ทุกประเด็นสำคัญ ก่อนชม Taxi Driver 3
อ่าน

สรุป! Taxi Driver 2 ทุกประเด็นสำคัญ ก่อนชม Taxi Driver 3

         สำหรับแฟน ๆ ของแฟรนไชส์ “Taxi Driver” เรียกว่าตื่นเต้นกันมาก! เพราะซีซั่น3 ได้ประกาศจะออนแอร์ในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ และการย้อนกลับไปทบทวน Taxi Driver 2 ก่อนชมภาค 3 เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด เพราะเนื้อเรื่องในภาคนี้ไม่ได้เป็นแค่ การต่อเนื่อง ของเหตุการณ์ แต่เต็มไปด้วยรายละเอียดตัวละคร, จุดพลิกผัน, และสัญลักษณ์สำคัญที่จะส่งผลต่อภาคต่อไป บทความนี้จะสรุปทุกประเด็นสำคัญใน 5 ข้อหลัก เพื่อให้คุณพร้อมเต็มที่ก่อนดู Taxi Driver 3 ว่าแล้วก็ลุยค่า! รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! 1.) การพัฒนาตัวละครหลัก: การเติบโตและความเปราะบาง        ใน Taxi Driver ภาค 2 มุ่งเน้นไปที่ “การพัฒนาตัวเอก” ให้ลึกและซับซ้อนยิ่งขึ้น ตัวละครหลักไม่ใช่แค่คนขับแท็กซี่ธรรมดา แต่เป็นคนที่มี อดีตและปมลึก ที่ส่งผลต่อทุกการตัดสินใจของเขาในเรื่อง เราเห็นว่าเขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองและกับสังคมรอบข้างมากขึ้น การกระทำบางอย่างที่ดูเรียบง่ายในภาคแรก กลับมีความหมายและน้ำหนักทางอารมณ์มากขึ้นในภาคสอง ตัวละครยังมี ด้านอ่อนแอและเปราะบาง ที่ถูกซ่อนอยู่ ทำให้ผู้ชมเข้าใจและเห็นใจเขามากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับความเข้มข้นใน Taxi Driver 3 2.) ความสัมพันธ์และพันธะที่สำคัญ           หนึ่งในประเด็นเด่นของ Taxi Driver 2 คือ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอกกับตัวละครรองและผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน คู่แข่ง หรือผู้โดยสารที่เขาได้ช่วย เรื่องราวแสดงให้เห็นว่า พันธะทางอารมณ์และมิตรภาพ เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ตัวละครรองบางตัวมีบทบาทมากขึ้นในภาคนี้ ความสัมพันธ์เหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงฉากประกอบ แต่ส่งผลต่อการตัดสินใจและพล็อตในภาค 3 ตัวอย่างเช่น การช่วยเหลือผู้โดยสารที่ติดอยู่ในสถานการณ์อันตราย ทำให้ตัวเอกต้องเผชิญกับความเสี่ยง และสะท้อนให้เห็นด้านจิตใจของเขา 3.) จุดพลิกผันและเหตุการณ์สำคัญ           Taxi Driver 2 มี หลายจุดพลิกผันที่สำคัญ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความตื่นเต้น แต่ยังเป็นตัวตั้งต้นของเนื้อเรื่องในภาค 3 เหตุการณ์บางอย่างในภาค 2 เช่น การเผชิญหน้ากับตัวร้าย หรือการตัดสินใจครั้งใหญ่ของตัวเอก ล้วนมีผลต่อทิศทางเรื่องราวและตัวละคร สิ่งที่สำคัญคือต้องสังเกต ความขัดแย้งทั้งภายในและภายนอก ของตัวเอก เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดแรงกระเพื่อมของเรื่องในภาคต่อ ทำให้ผู้ชมเห็นภาพรวมของเรื่องราวและเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังการกระทำในภาค 3 4.) ธีมหลักและข้อความเชิงสังคม          ซีรีส์เรื่อง Taxi Driver 2 ยังคงสำรวจ ธีมเดิมของแฟรนไชส์ เช่น ความยุติธรรม ความโดดเดี่ยว การเผชิญหน้ากับความรุนแรง และความซับซ้อนของสังคม แต่ในภาคนี้มี มิติใหม่ที่ลึกขึ้น ทั้งด้านจิตวิทยาและสังคม ข้อความสำคัญคือ การสะท้อนให้เห็นถึง ความเป็นมนุษย์ที่มีทั้งด้านดีและด้านมืด ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ท้าทายการเข้าใจธีมนี้ช่วยให้ผู้ชมไม่เพียงแต่สนุกกับเนื้อเรื่อง แต่ยังจับใจความเชิงลึกของตัวละครและความขัดแย้งทางสังคมได้ชัดเจน 5.) สัญลักษณ์และไฮไลท์ที่ต้องสังเกต            Taxi Driver 2 มีสัญลักษณ์และไฮไลท์สำคัญ หลายอย่างที่เชื่อมโยงไปยังภาค 3 เช่น แท็กซี่สีเฉพาะหรือสภาพรถ ที่สะท้อนตัวตนหรือจิตใจของตัวเอก , บทสนทนาสำคัญ ที่เผยความคิดหรือปมในใจ , ตัวร้ายและเหตุการณ์รุนแรง ที่จะกลับมาในภาคต่อ โดยการใส่ใจในสัญลักษณ์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้ชม เข้าใจเนื้อเรื่องลึกขึ้น และไม่พลาดรายละเอียดสำคัญเมื่อดู Taxi Driver 3 เรียกว่าการทวนเนื้อหาในซีรีส์เรื่อง Taxi Driver 2 ทำให้เราเห็นภาพรวมของตัวละคร พล็อตหลัก และธีมสำคัญอย่างชัดเจน ทั้งการพัฒนาตัวละคร ความสัมพันธ์ จุดพลิกผัน และสัญลักษณ์ต่าง ๆ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ ชมภาค 3 ได้เข้าใจเรื่องราวเต็มอรรถรส ถ้าจับใจประเด็นทั้ง 5 ข้อนี้เรียกว่าจะทำให้การดู Taxi Driver 3 ไม่เพียงแค่สนุก แต่เข้าใจลึกถึงเหตุผลของตัวละครและพล็อตทั้งหมด! สำหรับในซีรีส์เรื่อง Taxi Driver 3 สามารถรับชมได้ทาง Viu โดยจะออกอากาศวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 นี้!  เครดิตภาพหน้าปก SBS Drama ภาพหน้าปก เครดิตภาพประกอบบทความ SBS Drama ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

อินโฟเฟด ระเบิดศึก “University E-sports Championship” ชิงทุนการศึกษารวม 1 ล้านบาท
อ่าน

อินโฟเฟด ระเบิดศึก “University E-sports Championship” ชิงทุนการศึกษารวม 1 ล้านบาท

บริษัท อินโฟเฟด จำกัด ผู้ก่อตั้งสนามกีฬา “Thailand E-Sports Arena” เพื่อการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตแห่งแรกในประเทศไทย เดินหน้าจัดการแข่งขัน University E-sports Championship (UEC) ลีกอีสปอร์ตระดับมหาวิทยาลัยเต็มรูปแบบ ครั้งแรกในประเทศไทย โดยเปิดให้นักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศสมัคร พร้อมดวลฝีมือแข่งขัน ชิงทุนการศึกษารวมกว่า 1,000,000 บาท พร้อมโอกาสในการพัฒนาฝีมือและการทำงานในวงการอีสปอร์ต นายจิรยศ เทพพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท อินโฟเฟด จำกัด ซึ่งเป็น สตาร์ทอัพด้านอีสปอร์ต เปิดเผยว่า หลังจากเปิดตัวสนามกีฬา “Thailand E-Sports Arena” ซึ่งเป็นสนามการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตที่ครบวงจรที่สุดของประเทศ สามารถจัดการแข่งขันเกมทั้งในรูปแบบ ออนไลน์ ออฟไลน์ บนแพลตฟอร์มโมบายและพีซี ในปีนี้บริษัทมีเป้าหมายจัดลีกการแข่งขันให้กับนักกีฬาอีสปอร์ตไทยได้โชว์ศักยภาพ และพัฒนาทักษะเพื่อต่อยอดสู่อาชีพต่าง ๆ จึงได้ผนึกกำลังกับมหาวิทยาลัยในประเทศ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจ ดิจิทัล (depa) และบริษัทเอกชนชั้นนำที่เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนในการจัดการแข่งขัน University E-sports Championship หรือ UEC ซึ่งเป็นลีกการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย เนื่องจากเป็นการเปิดกว้างให้ผู้เข้าแข่งขันระดับอุดมศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ สามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขันบนเว็บไซต์ www.UEC.live พร้อมมีเกมการแข่งขันที่นิยมหลายเกมและรางวัลมีมูลค่าสูงกว่าการแข่งขันที่ผ่านมา ในด้านการสนับสนุนนั้น ทางบริษัทยังเปิดรับผู้ร่วมสนับสนุนการแข่งขัน UEC เพื่อขยายช่องทางการสื่อสารสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ ผ่านลีกการแข่งขัน UEC “การจัดลีก UEC นับเป็นมิติใหม่ของการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตระดับอุดมศึกษาในประเทศ เนื่องจากเป็นการจัดแข่งขันที่เปิดกว้างให้นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศสมัครเข้ามาร่วมการแข่งขันผ่านเว็บไซต์ โดยแข่งขันด้วยเกมยอดนิยม 3 เกม คือ Arena of Valor หรือ ROV, Player Unknown Battleground Mobile หรือ PUBG Mobile และ Overwatch ซึ่งครอบคลุมทั้งบนแพลตฟอร์มโมบายและพีซี เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันที่เปิดกว้างเข้มข้นท้าทายศักยภาพนักกีฬาอีสปอร์ตไทยเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นบันไดสู่การ ต่อยอดอาชีพต่าง ๆ ในอนาคตอีกด้วย” นายจิรยศ กล่าวเสริม อย่างไรก็ตาม การแข่งขัน UEC จะแบ่งภูมิภาคการแข่งขันออกเป็น 5 ภูมิภาคหลัก คือ ภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันตก ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ สุดท้ายคือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยการแข่งขันในแต่ละเกมนั้นจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 รอบ คือ รอบ Online เพื่อเฟ้นหาตัวแทนมหาวิทยาลัยระดับภูมิภาค และรอบ Offline เพื่อชิงชนะระดับประเทศ ณ Thailand E-Sports Arena โดยการแข่งขัน UEC ในครั้งนี้ มีรางวัลเป็นทุนการศึกษาและทริปการศึกษาดูงานเกม G-Star ที่ประเทศเกาหลีใต้ มูลค่ารวมกว่า 1,000,000 ล้านบาท นายจิรยศกล่าวต่อว่า ล่าสุด KK Fund จากประเทศสิงคโปร์ ได้เข้ามาลงทุนในบริษัทแล้ว ด้วยเล็งเห็นถึงศักยภาพและแผนธุรกิจของบริษัทสตาร์ทอัพด้านอีสปอร์ตที่น่าจับตา ซึ่งเงินทุนที่ได้จะนำไปใช้ในการจัดการแข่งขัน UEC, พัฒนา Studio, Production และแพลตฟอร์มการแข่งขัน โดยทางบริษัทมีแผนขยายการจัดลีกการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ ประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยปีละ 7-8 % ประกอบกับตลาด อีสปอร์ตในประเทศกลุ่มนี้มีแนวโน้มการเติบโตเป็นไปในทิศทางของเศรษฐกิจ ทั้งยังมีการสนับสนุนจากทางภาครัฐในการเดินหน้าอุตสาหกรรมอีสปอร์ตอย่างต่อเนื่อง และการจัดลีกการแข่งขันจะช่วยสร้างความคึกคัก และสร้างกระแสความนิยมของกีฬาอีสปอร์ตในภูมิภาคมากขึ้น โดยโรดแมปแผนการจัดลีกการแข่งขันซีซันแรกนั้นจะเป็นการจัดแข่งขันภายในประเทศไทย และมีเป้าหมายที่จะขยายการแข่งขันไปยังกลุ่มประเทศ CLMV และ SEA ต่อไปตามลำดับ อีกทั้งบริษัทยังเปิดกว้างรับการลงทุนจากนักลงทุนที่สนใจและมองเห็นศักยภาพของบริษัท ซึ่งในปีนี้ปริษัทตั้งเป้าเติบโตกว่า 200% ด้าน ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจ ดิจิทัล (ดีป้า) เปิดเผยว่า อีสปอร์ตได้รับการบรรจุเข้าสู่การแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2018 ครั้งแรกในฐานะกีฬาสาธิตพิสูจน์ความสามารถของนักกีฬาไทยในเวทีมหกรรมกีฬาเป็นครั้งแรก และเป็นโอกาสสำคัญในการพิสูจน์ความสำเร็จในเวทีการแข่งขันระดับประเทศ และการพัฒนานักกีฬาอีสปอร์ตไทยให้มีศักยภาพในเวทีการแข่งขันระดับโลก ซึ่งการจัดลีกการแข่งขัน UEC ระดับอุดมศึกษาเต็มรูปแบบในครั้งนี้ นับเป็นก้าวที่สำคัญของการเปิดเวทีการแข่งขันให้กับเหล่านักกีฬาอีสปอร์ตที่มีความสามารถได้แสดงความสามารถและฝึกฝีมือ ทั้งยังเป็นการแก้ปัญหา “เด็กติดเกม” ให้กลายเป็น “โอกาสของประเทศ” ได้ตรงจุด ด้วยการจูงใจให้เยาวชนที่ชื่นชอบการเล่นเกมเข้าสู่การแข่งขันและพัฒนาตัวเองเข้าสู่วงการอีสปอร์ตต่อไป อนึ่ง การจัดลีกการแข่งขันมีส่วนช่วยให้ตลาดอีสปอร์ตในประเทศไทยและภูมิภาคคึกคัก โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดอีสปอร์ตในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว สูงขึ้นปีละกว่า 30% โดยปีนี้คาดว่าจะเติบโตสูงถึง 50% และยังพบว่าประเทศในกลุ่ม CLMV มีมูลค่าการเติบโตที่น่าจับตาเช่นกัน อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะไทยลีก 2019 อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะพรีเมียร์ลีก 2018/19 ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย ดูบอลสด ไฮไลท์บอล แบบจัดเต็มได้ ที่นี่ ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก! ดูไฮไลท์บอล พรีเมียร์ลีก ฟรี คลิก! ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

The River Coffee นั่งชิลล์ แบบ New-Normal
อ่าน

The River Coffee นั่งชิลล์ แบบ New-Normal

หลังจากที่เราใช้ชีวิตแบบ New-Normal ที่มีการคลายล็อคดาวน์มาได้สองอาทิตย์กว่า ๆ แล้ว ซึ่งเราจะออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านอาทิตย์ละหนึ่งวัน วันนี้เราได้มีโอกาสไปทานกาแฟที่ร้านกาแฟเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนเนินเขา บนถนนสายชนบทที่เชื่อมระหว่างอำเภอกะทู้และอำเภอเมืองภูเก็ตร้านนี้มีชื่อว่า The River Coffeeซึ่งตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมาทางร้าน The River Coffee ได้กลับมาเปิดให้บริการสำหรับลูกค้าที่ต้องการมานั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่มในร้านอีกครั้งหลังจากช่วงที่ผ่านมาเปิดให้บริการแบบ Take Away เท่านั้น ในช่วงนี้ทางร้านได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของทางกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องการรักษาความสะอาดภายในร้าน โดยผู้ให้บริการและผู้มาใช้บริการต้องสวมหน้ากากผ้า ส่วนโต๊ะที่จัดไว้ให้บริการ ทั้งในร้านและในบริเวณลำธารทางร้านจะจัดโต๊ะไว้ไม่กี่ตัวเท่านั้นเพื่อเป็นการจำกัดจำนวนผู้มาใช้บริการไม่ให้มากจนเกินไป โดยแต่ละโต๊ะก็จะจัดให้ห่างกัน 1-2 เมตร สำหรับเครื่องดื่มทุกชนิด ทั้งเมนูร้อนและเมนูเย็น ทางร้านจะใช้ภาชนะเป็นแก้วสำหรับ "Take Away"เพราะต้องคำนึงถึงความสะอาดและความปลอดภัยของลูกค้าที่มาใช้บริการเป็นหลัก The River Coffeeเป็นร้านกาแฟที่บรรยากาศร่มรื่นมาก มาที่นี่เราจะได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ มองไปทางไหนก็มีสีเขียวของต้นไม้เพราะในบริเวณรอบ ๆ ร้านมีต้นไม้เยอะมาก ตัวร้านตั้งอยู่บนเนินเขา และจะมีบันไดเดินลงไปด้านล่างที่เป็นลำธารเล็ก ๆ ซึ่งน้ำจะตื้นมากจึงสามารถตั้งโต๊ะอาหารบนพื้นของลำธารได้ ทำให้เราได้นั่งจิบกาแฟ,ทานอาหารหรือทานขนมในร่มไม้พร้อมกับแช่เท้าในน้ำเย็น ๆ ซึ่งน้ำในลำธารจะใสและเย็นมากถึงแม้ว่าจะเป็นลำธารเล็ก ๆ รอบ ๆ ร้านจะมีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ ได้หลายมุม ตั้งแต่หน้าร้านลงไปถึงในลำธาร รายการเครื่องดื่มที่มีไว้ให้บริการ :กาแฟแบบต่าง ๆ เช่น Espresso, Americano, Cappuccino, Latte, Mocha, Caramel Macchiato, ชาเขียวใส่นม, ชาเย็นแบบไทย ๆ, นมสด, โกโก้ร้อน, เย็นเครื่องดื่มเย็นพวกอิตาเลียนโซดา, น้ำผึ้งมะนาวโซดา, ลิ้นจี่โซดา และชาร้อนค่ะเครื่องดื่มราคาเริ่มต้น 35 บาท แพงที่สุด 75 บาท รายการอาหาร: ที่ร้าน The River Coffeeจะมี เค้กและเบเกอรรี่ต่าง ๆสลับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวันเช่นเค้กมะพร้าว, เค้กเผือก, ไดฟูกุไส้ฝอยทองช็อคโกแลต, ช็อคโกแลตลาวา เป็นต้นค่ะ เค้กราคาประมาณชิ้นละ 100 บาท สำหรับใครที่ต้องการรับประทานอาหาร สามารถสั่งอาหารจากร้านข้าง ๆ มารับประทานได้ เป็นพวกอาหารตามสั่ง ข้าวผัดต่าง ๆ, ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ, อาหารทานเล่น พิกัดของร้าน7.945474, 98.360517 เลขที่ 25/13 ถนนทางหลวงชนบท 3030 เป็นถนนเส้นระหว่างพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ และโรงเรียนนานาชาติ British International School, Phuket https://www.facebook.com/Therivercoffee.Phuket/ ร้านเปิดให้บริการทุกวันยกเว้นวันอังคาร ตั้งแต่เวลา 11.00 -17.30 น. ในร้านจะมีที่นั่งสี่โซน :โซนในร้านมี 2 โต๊ะ,ระเบียงด้านหลัง นั่งได้ 2 โต๊ะ, ระเบียงชั้นล่าง นั่งได้ 1 โต๊ะ และด้านล่างในลำธาร ตั้งโต๊ะไว้ 2 โต๊ะ และที่ร้านมี wifi ไว้บริการฟรี,ด้านหน้าร้านมีที่จอดรถยนต์ได้ประมาณ 5-6 คัน The River Coffee เป็นอีกหนึ่งร้านกาแฟในภูเก็ตที่บรรยากาศดี ได้นั่งฟังเสียงธรรมชาติ พนักงานเป็นกันเอง และราคาไม่แพงค่ะ ที่สำคัญคือสะอาดปลอดภัย ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน

อัพเดท COM7 มีอะไรใหม่?
อ่าน

อัพเดท COM7 มีอะไรใหม่?

#ทันหุ้น - บล.เคจีไอ ส่องหุ้น บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 คาดว่าน่าจะได้อานิสงส์จำกัดจากมาตรการ Easy E-receipt ด้านยอดขาย อัตรากำไรมีความเสี่ยงจากประเด็นการลงแอพฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต และกำไรกลับมาโตในระดับปกติ ฝ่ายวิจัยจึง de-rate PER ลงจากเดิม 22.0X เหลือ 18.0X และปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ลงจากเดิม 31.00 บาท เหลือ 23.00 บาท โดยยังคงคำแนะนำ ถือ COM7 ฝ่ายวิจัยประมาณการ Q4/67 คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 802 ล้านบาท (+20% YoY, +13% QoQ) เนื่องจาก ยอดขายดีในช่วง high season ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิในปี 2567 อยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท (+8% YoY) ฝ่ายวิจัยคาดว่ายอดขายใน Q4/67 จะอยู่ที่ 2.14 หมื่นล้านบาท (+7% YoY, +19% QoQ) ซึ่งจะทำให้ยอดขายปี 2567 อยู่ที่ 7.7 หมื่นล้านบาท (+11% YoY) จากปัจจัยฤดูกาล ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกประเมินว่ายอดจดัส่ง smartphone ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 3% YoY ใน Q4/67 (นำโดย Apple) ซึ่งจะทำให้ยอดจัดส่ง smartphone ทั่วโลกในปี 2567 เพิ่มขึ้น 7% YoY ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน Q4/67 จะอยู่ที่ 12.6% (+1ppts YoY, - 0.7ppts QoQ) เนื่องจากยอดขาย iPhone มีน้ำหนักมากขึ้น เมื่อเทียบกบัยอดขายรวม น่าจะได้อานิสงส์จำกัดจากมาตรการ Easy e-receipt โดยมีความเสี่ยงจากการที่ smartphone ของ OPPO และ Realme ลงแอพฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่ายวิจัยยังคงมองว่า COM7 จะได้อานิสงส์จำกัดจากมาตรการ easy E-receipt เพราะวงเงินการใช้จ่ายตาม โครงการลดลง (จาก 50,000 บาทใน Q1/67 เหลือ 30,000 บาทใน Q1/68) นอกจากนี้ ยังมองว่ามีความเสี่ยงจากกรณีการติดต้้งแอพฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต (Fineasy และ Happy Loan) ในเครื่อง smartphone แบรนด์ OPPO และ Realme ซึ่งสื่อในประเทศรายงานว่าคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ได้สั่งห้ามขายเครื่องรุ่นใหม่ที่มีการลงแอพฯ เหล่านี้ไว้ และประสานงานกับทั้งสองบริษัทให้ถอนแอพฯ นี้ออกไปจากเครื่อง ซึ่งคาดว่าประเด็นนี้น่าจะไม่เพียงแต่จะกระทบยอดขายของ COM7 เท่าน้้น (ยอดขายแบรนด์ OPPO และ Realme ของ COM7 เทียบกับยอดขาย รวมเป็นเลขหลักเดียว) แต่การหยุดจำหน่ายยังจะกระทบกับสินค้าคงคลัง ซึ่งอาจจะทำให้ต้องตั้งสำรอง สำหรับสินค้าตกรุ่น และจัดโปรโมชั่น เพื่อฟื้นยอดขาย หั่นการกำไร และ de-rate PER ลง ฝ่ายวิจัย ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568 ลง 10% เพื่อสะท้อนถึง i) ประมาณการยอดขายลดลง 5% จาก ผลกระทบกรณีของ OPPO และ Realme และ ii) การปรับลดอตัรากำไรขั้นต้นลง 40bps เพื่อสะท้อนถึง ผลกระทบจากการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย โดยคาดว่ากำไรสุทธิของ COM7 จะทรงตัวในปีนี้และจะเพิ่มขึ้น 10% ในปี 2569 โดยคาดว่ากำไรอาจจะโตได้ในช่วงเลขหลักเดียว หรือ สองหลักต่ำๆ จากฐานที่สูงของเครือข่ายร้านค้า (ผลกระทบต่ำจากการขยายสาขาร้าน) และการแข่งขันที่สูงขึ้นจากผู้เล่นรายใหม่ ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึง de-rate PER ลงจากเดิม 22.0X (ค่าเฉลี่ยในอดีต -0.5 S.D.) เหลือ18.0X (ค่าเฉลี่ยในอดีต -1.0 S.D.) เพื่อสะท้อนถึงกำไรที่กลับมาโตในระดับปกติ หั่นเป้าสิ้นปี 68 เหลือ 23 บ. แนะถือ พร้อมปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ลงจากเดิม 31.00 บาท เหลือ 23.00 บาท อิงจาก PER ที่ 18.0X และคงคำแนะนำ ถือ Risks อุปสงค์ smartphones ต่ำเกินคาด, รายได้จากการขายอุปกรณ์เสริมต่ำกว่าที่คาด, และมีการจัดรายการ ส่งเสริมการขายมากกว่าที่คาดไว้

Tesla เปิดตัวร้านอาหาร Diner & Drive-In สุดล้ำพนักงานเป็นหุ่นยนต์กลางฮอลลีวูด แคลิฟอร์เนีย
อ่าน

Tesla เปิดตัวร้านอาหาร Diner & Drive-In สุดล้ำพนักงานเป็นหุ่นยนต์กลางฮอลลีวูด แคลิฟอร์เนีย

วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา Tesla เปิดตัว ร้านอาหารแนวเรโทรแห่งอนาคต ภายใต้ชื่ออย่างเป็นทางการ Tesla Diner Drive-In ในย่านฮอลลีวูด รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยผสมผสานบรรยากาศย้อนยุคแบบไดเนอร์อเมริกันเข้ากับเทคโนโลยีล้ำยุคของ Tesla"> ภายในมีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Supercharger V4 ถึง 80 ช่อง พร้อมโรงหนังไดรฟ์อินที่ฉายผ่านจอ LED ขนาด 45 ฟุต 2 จอ ซึ่งเสียงภาพยนตร์จะเล่นผ่านลำโพงภายในรถ Tesla โดยตรงเมนูอาหารภายในร้านเน้นความคลาสสิก เช่น แฮมเบอร์เกอร์ ฮอตด็อก เฟรนช์ฟรายส์ และมิลค์เชค พร้อมด้วยสินค้าจากแบรนด์ Tesla และหุ่นยนต์ Optimus ที่เดินอยู่ในร้านเพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้ลูกค้า นอกจากนี้ยังมีจุดสั่งอาหารผ่านหน้าจอในรถ Tesla ได้โดยตรงแม้จะเพิ่งเปิดบริการ แต่ร้านก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม เห็นได้จากคิวยาวในช่วงเช้า และบรรยากาศคึกคักบริเวณหน้าอาคาร อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่าร้านจะกลายเป็นแลนด์มาร์กถาวรของฮอลลีวูดหรือไม่ อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla ได้โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า "หากร้านแนว เรโทรล้ำยุค นี้ได้รับการตอบรับดี Tesla มีแผนจะขยายสาขาไปยังเมืองใหญ่ทั่วโลก"รวมถึงตามสถานีชาร์จไฟฟ้าในเส้นทางเดินทางระยะไกลด้วย โดยระบุว่า “ถ้าร้านอาหารของเราประสบความสำเร็จ Tesla จะเปิดร้านแบบนี้อีกในเมืองสำคัญทั่วโลก”">

รู้จักอุปกรณ์ดำน้ำ‘Scuba Diving’ กับ‘ดีเจเต๊ป’ อาจารย์สอนดำน้ำ
อ่าน

รู้จักอุปกรณ์ดำน้ำ‘Scuba Diving’ กับ‘ดีเจเต๊ป’ อาจารย์สอนดำน้ำ

กีรติ ศิริสุทธิพัฒนา หรือ ดีเจเต๊ป นักจัดรายการวิทยุชื่อดังที่ปัจจุบันผันตัวมาเปิดโรงเรียนสอนดำน้ำพัฒนาสกูบ้า คลับ มีประสบการณ์ดำน้ำมานานหลายปี บวกกับความกล้าและกระตือรือร้นที่จะค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ อยากมาบอกเล่าประสบการณ์ในการดำน้ำไว้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจอยากหันมาลองทำกิจกรรมดำน้ำกันบ้าง ใช้เวลาศึกษาเรียนรู้อยู่ประมาณ 5 ปีครับ กว่าจะได้ทำอาชีพนี้ ผมได้มีโรงเรียนสอนดำน้ำเป็นของตัวเอง ชื่อพัฒนาสกูบา เปิดมาได้ 5 ปีแล้วครับ มีสอนดำน้ำตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนถึงระดับมืออาชีพ แล้วก็มีพาไปออกทริปดำน้ำทั้งในไทยแล้วก็ต่างประเทศด้วย ดีเจเต๊ป จึงแนะนำวิธีการเลือกซื้ออุปกรณ์ดำน้ำ รวมถึงเริ่มต้นดำน้ำสำหรับผู้สนใจ และความปลอดภัยในการดำน้ำ เคล็ดลับต้องดูครับว่าตัวเราเหมาะกับแบบไหน คืออุปกรณ์แต่ละชิ้นมันจะเหมาะกับรูปแบบการดำน้ำที่แตกต่างกัน เรียกได้ว่าถูกออกแบบมาเฉพาะทางมากๆ แต่บางคนที่ดำน้ำใหม่ๆ เขาก็จะเลือกอุปกรณ์ที่ดูสวย เด่น ไม่เหมือนใครเข้าไว้ หรือบางคนก็ลงทุนสั่งมาจากต่างประเทศเลย ส่วนใครที่สนใจอยากจะดำน้ำ อย่างแรกเลยต้องไปเรียนก่อน จะมีสมาคม มีสถาบันสอน เรียนแล้วก็ได้บัตรมา เพื่อรับรองว่าเราผ่านการอบรมวิธีดำน้ำมาเรียบร้อยแล้ว เพราะถ้าไม่มีบัตร เวลาไปเที่ยวที่ไหนแล้วอยากลงดำน้ำ เขาจะไม่ให้เราลง ก็เหมือนกับใบขับขี่นั่นแหละ ครูเต๊ปยังทิ้งท้ายไว้อีกด้วยว่า สำหรับผู้ที่สนใจอยากดำน้ำ มีอายุเพียงประมาณ 8 ปีขึ้นไปก็สามารถเริ่มเรียนได้แล้ว แต่แท้ที่จริง ไม่มีการจำกัดอายุของนักดำน้ำ ถึงแม้ว่าผู้สนใจจะอายุมากแล้วก็ตาม แต่ถ้าร่างกายไหว สุขภาพยังแข็งแรง ไม่เป็นโรคอันตราย อย่างเช่นโรคความดัน โรคหัวใจ ก็สามารถดำน้ำได้เช่นกัน การดำน้ำแบบ Scuba Diving เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมทางการท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยม เพราะจะทำให้ได้ลงไปสัมผัสประสบการณ์ใต้ท้องทะเลลึก ได้เห็นทัศนียภาพสวยๆ ได้เปิดหูเปิดตา ได้เห็นอะไรใหม่ๆ ได้ผ่อนคลายความเครียด ขณะที่หลายๆ คนก็สนใจอยากหันมาลอง Scuba Diving ดูบ้าง แต่ยังไม่มีประสบการณ์ อันดับแรกต้องเลือกเรียนดำน้ำกับโรงเรียนที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน และต้องเรียนรู้อุปกรณ์ในการดำน้ำด้วย ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาอธิบายข้อควรรู้ต่างๆเกี่ยวกับกิจกรรมนี้กัน ตั้งแต่อุปกรณ์ไปจนถึงความปลอดภัยในการทำกิจกรรม อุปกรณ์สำหรับ Scuba Diving มีอะไรบ้าง? 1. ถังออกซิเจน - สำคัญมากเป็นอันดับหนึ่ง เพราะถ้าไม่มีแล้ว นักดำน้ำจะไม่สามารถลงไปที่น้ำลึกมากๆ ได้ เพราะจะหายใจไม่ได้ โดยถังออกซิเจนแต่ละถังจะบรรจุอากาศสำหรับหายใจไว้ ซึ่งมีเวลาการใช้งานที่จำกัด เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 45-50 นาที อากาศจะหมด ต้องเติมอากาศใส่เข้าไปใหม่จึงจะใช้งานได้ แต่นักดำน้ำจะได้รับการแจ้งเตือนจากอุปกรณ์ด้วยถ้าหากว่าอากาศในถังกำลังจะหมด 2.หน้ากากดำน้ำ - หน้ากากดำน้ำนี้จะมีส่วนขอบที่ปกคลุมเบ้าตาและรูจมูกของนักดำน้ำอย่างปลอดภัย กันไม่ให้น้ำเข้าตาหรือจมูก ดังนั้นควรเลือกให้เหมาะกับขนาดใบหน้า ขอบยางซิลิโคน มีความนิ่ม แนบกระชับใบหน้า ไม่มีรูให้อากาศรั่วออกได้ 3.ชุดดำน้ำ - ถ้าหากใครเคยดูสารคดี หรือภาพยนตร์หลายๆ เรื่องที่มีฉากใต้ทะเล คงจะเคยเห็นชุดดำน้ำผ่านๆ ตากันมาบ้างแล้ว โดยลักษณะก็จะเป็นชุดแขนยาวขายาว สวมใส่แนบเนื้อ มีทั้งแบบบางและแบบหนา มีคุณสมบัติพิเศษคือช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกายของนักดำน้ำให้เหมาะสมกับสถานที่ดำน้ำแต่ละแห่ง 4.ตีนกบ หรือ ฟิน - ตีนกบเป็นอุปกรณ์ช่วยในการดำน้ำที่สำคัญ ใช้สำหรับสวมใส่ที่เท้า ทำให้นักดำน้ำว่ายน้ำได้คล่องตัวขึ้น ควรเลือกตีนกบที่มีขนาดพอดีกับเท้า 5. เข็มขัดตะกั่ว - ใช้สำหรับถ่วงน้ำหนักให้นักดำน้ำสามารถดำลงไปใต้น้ำได้ ไม่อย่างนั้นตัวจะลอยอยู่ที่ผิวน้ำ เหมือนกับที่เวลาเราว่ายน้ำปกตินั่นเอง 6.ท่อหายใจ หรือ เรกกูเลเตอร์ (RegulatorSystem) - สำหรับใช้ต่อกับถังออกซิเจน ให้นักดำน้ำสามารถหายใจใต้น้ำได้ 7.เสื้อชูชีพ หรือ BCD (Buoyancy Control Device) - หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมนักดำน้ำต้องมีเสื้อชูชีพ ในเมื่อต้องดำลงไปใต้น้ำอยู่แล้ว เพราะปรกติเราจะคุ้นแต่กับการใส่เสื้อชูชีพเพื่อไม่ให้จมน้ำ แต่ความจริงแล้ว เสื้อชูชีพของนักดำน้ำนั้นต่างจากเสื้อชูชีพทั่วไป เพราะเสื้อชูชีพของนักดำน้ำมีไว้เพื่อควบคุมการลอยตัวใต้น้ำ ช่วยให้ไม่จมดิ่งลงไปลึกเกิน และช่วยให้สามารถลอยตัวขึ้นผิวน้ำได้เมื่อต้องการขึ้นจากน้ำ ลักษณะการทำงานก็จะเป็นการปล่อยลมเข้าออก เมื่อปล่อยลมเข้าจะทำให้ลอยตัวได้ และถ้าปล่อยลมออกจะทำให้ดำลงไปได้ลึก สำหรับคนที่สนใจจะเรียนดำน้ำแบบสกูบ้าเพื่อลงไปสัมผัสความงามใต้ท้องทะเลที่กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง หรือต้องการหาทริปดำน้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมเลือกซื้ออุปกรณ์ดำน้ำคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสม ต้องมาที่งาน Thailand Dive Expo 2020 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-4 ต.ค.นี้ ที่ฮอลล์ EH 106-107 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เพราะเป็นงานเดียวที่รวบรวมสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวดำน้ำที่ได้มาตรฐานและครบวงจรมากที่สุดในประเทศไทย ส่วนของมาตรการการรักษาความสะอาดและความปลอดภัยสำหรับผู้ประกอบการที่มาเข้าร่วมแสดงสินค้า และผู้เข้าชมงานนั้น ทางผู้จัดงานยังคงให้ความสำคัญตามมาตรฐานการคัดกรองทุกขึ้นตอน อาทิ การวัดอุณหภูมิ การเว้นระยะห่าง การลดการสัมผัสโดยไม่จำเป็น บริการเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือในจุดต่างๆ อย่างเหมาะสม โดยจะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการลงทะเบียนเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เข้าชมงานอย่างเต็มที่

Asap ชูกลยุทธ์ Mobility Solution Driven เปิดตัวแอพพลิเคชั่น Asap App เจาะตลาด B2C ยุค New Normal
อ่าน

Asap ชูกลยุทธ์ Mobility Solution Driven เปิดตัวแอพพลิเคชั่น Asap App เจาะตลาด B2C ยุค New Normal

บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ Asap ผู้ประกอบการรถยนต์ให้เช่ารายใหญ่ในประเทศ ทั้งรถให้เช่าระยะยาวแก่องค์กร รถเช่าระยะสั้น และการให้เช่าพร้อมคนขับ ปรับแผนกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าจากการให้บริการกับลูกค้าองค์กร (B2B) เป็นหลัก สู่การให้บริการกับลูกค้ารายย่อย (B2C) ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล Asap App แอปพลิเคชั่นใหม่ล่าสุด ที่อาศัยแนวคิด Mobility Solution Driven เพื่อเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทย เชื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุค New Normal พร้อมประกาศแผนรุกตลาดประกันภัย และธุรกิจขายรถมือสองแบบ Peer-to-Peer เพื่อให้ครอบคลุมการบริการกับลูกค้ารายย่อยได้กว้างมากขึ้น นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวคิด Mobility Solution Driven ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ได้มีการวางแผนคิดค้นพัฒนามากว่าสามปี เพื่อให้แอปพลิเคชั่นของ Asap ตอบโจทย์การเดินทางของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยรองรับการเดินทางของทั้งคน สัตว์ สิ่งของ ให้เป็นเรื่องง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว ทุกวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเดินทางยังคงเกิดขึ้นเพียงแต่อยู่ในรูปแบบที่เปลี่ยนไป โดยจะเห็นได้ว่าการเดินทางในยุคนี้ต้องมีการบริหารจัดการ และการวางแผนที่ดี เพื่อช่วยผู้บริโภคจัดการเวลาได้อย่างคุ้มค่า ดังนั้น การพัฒนาโซลูชันด้านการเดินทาง (Mobility Solution) ที่รัดกุม ปลอดภัย และเชื่อถือได้จึงกลายเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งจากที่เราได้ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค และมองเห็นความต้องการที่เปลี่ยนไปเหล่านี้ จึงได้พัฒนา 7 โซลูชันขึ้นมาบนแอปพลิเคชัน Asap เพื่อให้ตอบโจทย์สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น ภายในแอปพลิเคชัน Asap จึงมาพร้อม 7 บริการที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย ประกอบด้วย บริการรถเช่ารายวัน บริการรถเช่าพร้อมคนขับ (Butler) บริการรับส่งผู้สูงอายุ บริการรับส่งในวันพิเศษด้วยรถหรู (ลีมูซีน) บริการขนเฟอร์นิเจอร์ บริการรับส่งสัตว์เลี้ยง บริการขับรถให้คุณ ในฐานะที่ Asap เป็นผู้ให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรและหน่วยงานภาครัฐมากว่า 10 ปี ทำให้เรามีปัจจัยและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จะนำมาให้บริการแก่ลูกค้าบุคคลทั่วไปได้อย่างครบวงจร และมีมาตรฐาน ซึ่งการรุกตลาดคอนซูเมอร์ในครั้งนี้เป็นเพราะเรามองเห็นโอกาสที่จะนำบริการของเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของลูกค้า และอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะในสภาวะที่โควิด-19 กำลังระบาด และทำให้ผู้คนส่วนใหญ่พยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยระบบสาธารณะเพื่อความปลอดภัยในสุขภาพของตัวเอง นายทรงวิทย์กล่าว สร้างระบบนิเวศน์ที่มีฐานผู้ใช้บริการหลักแสน ด้านนางสาวพิชชาภัสสร์ ฐิติปุญญา ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้ระบบนิเวศน์มีความสมบูรณ์ ทางบริษัทจึงได้มีการเปิดรับสมาชิกในชื่อ Asap club หรือคลับสำหรับให้บริการลูกค้าของ Asap โดยตั้งเป้าสมาชิกบนแพลตฟอร์มเอาไว้ 10,000 รายภายใน 14 วันนับจากเปิดให้บริการ ( เริ่มเปิดลงทะเบียน วันที่ 1 มิถุนายน 2564) รวมถึงต้องการสร้างยอดสมาชิกในคลับให้แตะ 100,000 รายภายในสิ้นปีนี้ สำหรับสิทธิพิเศษที่สมาชิกของ Asap Club จะได้รับนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อประกันภัยรถยนต์ หรือซื้อรถมือสอง (รถบ้าน) ได้ผ่านทางแพลตฟอร์ม นอกจากนั้น ยังมีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้า 10,000 รายแรกที่สามารถสมัครสมาชิกได้ในราคา 99 บาทจากราคาเต็ม 499 บาท และสามารถเลือกใช้ 7 บริการที่กล่าวมาข้างต้นได้ฟรีหนึ่งครั้งด้วย ทั้งนี้การเปิดรับสมาชิก Asap Club จะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป และผู้ที่ได้รับสิทธิพิเศษ สามารถกดใช้สิทธิได้ภายใน 14 วันหลังจากชำระเงิน ต่อยอดสู่ธุรกิจประกันภัย ขายรถมือสองแบบ P2P นางสาวพิชชาภัสสร์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า นอกจากการให้บริการด้านการเดินทางสำหรับบุคคลสำคัญ สัตว์เลี้ยงแสนรัก หรือการเคลื่อนย้ายสิ่งของต่าง ๆ ใน Asap App แล้ว ผู้ที่เป็นสมาชิก Asap club ยังสามารถใช้บริการอื่นๆ พร้อมสิทธิพิเศษเหนือใครอีกมากที่จะตามมาในไตรมาสสามของปีนี้ อาทิ การซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ รวมถึงการซื้อขายรถยนต์มือ 2 ของผู้ที่เป็นสมาชิกผ่านแอปพลิเคชั่น Asap ซึ่งทั้งหมดจะเป็นการสร้างรูปแบบ Community ของกลุ่มสมาชิกรูปแบบใหม่ ภายใต้ Asap club ซึ่งเรามั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่มองหาความคุ้มค่าพร้อมสิทธิพิเศษที่เลือกสรรมาให้โดยเฉพาะแน่นอน สำหรับธุรกิจประกันภัยและธุรกิจ Used Car P2P หรือการขายรถมือสองแบบ Peer-to-Peer นั้น คุณทรงวิทย์ กล่าวเสริมว่า เป็นช่องทางใหม่ที่แตกต่างจากช่องทางปกติ เพราะผู้คนที่อยู่ในคอมมูนิตี้ไม่เพียงต้องการบริการเสริมด้านการเดินทาง หากแต่สมาชิกทุกคนก็ต้องซื้อประกันภัยรถยนต์ รวมถึงเมื่อใช้รถไปนาน ๆ วันหนึ่งรถที่สมาชิกมีก็ต้องเก่าลงและมองหาผู้ที่จะส่งมอบต่อ ซึ่งทั้งการขายประกันภัยสามารถอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งบริการ Used Car P2P จะมาตอบโจทย์ในจุดนี้ เพื่อให้ทั้งให้ผู้ซื้อ-ผู้ขายสามารถซื้อขายรถในราคาที่ตนเองพอใจได้มากขึ้น และมั่นใจได้ว่า เป็นรถบ้านแท้ เนื่องจากสามารถรู้จักตัวตนของผู้ขายได้จากแพลตฟอร์ม ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งสองธุรกิจยังเป็นการปรับกลยุทธ์เพื่อ TurnAround ธุรกิจของ Asap หลังจาก Covid-19 ผ่านพ้นไปด้วย โดยนายทรงวิทย์ ได้กล่าวว่า สัดส่วนรายได้ของ Asap ในปัจจุบัน 70% มาจากบริการรถเช่าระยะยาว 10% มาจากบริการรถเช่าระยะสั้น และอีก 20% มาจากรายได้จากการขายรถยนต์มือสอง ขณะที่ แผนการ Turnaround ของเราคือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยสร้างแพลตฟอร์ม ซึ่งหลังจากเราใช้เวลาในการพัฒนาแพลตฟอร์มมาตลอด 2 ปี วันนี้เรามีแอปพลิเคชัน Asap ที่เรามั่นใจว่ามีความพร้อมอย่างสูงในการตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกด้าน ทั้งการบริหารจัดการข้อมูล การเชื่อมต่อระบบเทเลเมติกส์ ระบบการชำระเงิน การเชื่อมกับระบบหลังบ้าน จึงมั่นใจว่าจะสามารถให้บริการลูกค้าทั้งในระดับคอนซูเมอร์ และลูกค้าองค์กรภายใต้ความต้องการที่เปลี่ยนไปในยุค New Normal ได้อย่างแน่นอน คุณทรงวิทย์ กล่าวปิดท้าย

รีวิวซีรีส์เกาหลี How to buy a friend
อ่าน

รีวิวซีรีส์เกาหลี How to buy a friend

How to Buy a Friend เป็นซีรีส์เกาหลีที่ออกอากาศช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีทั้งหมด 8 EP EP ละครึ่งชั่วโมง ดูเพลิน ๆ บางคนดูวันเดียวก็จบ เป็นซีรีส์ เกี่ยวกับวัยเรียนเด็กมัธยมอายุ 18 ปี ช่วงที่หัวเลี้ยวหัวต่อหาความฝันของตัวเอง แต่ก็จะมีการแก้ปริศนา การค้นหาความลับที่เกิดขึ้นกับตัวละครต่างล้วนเป็นเรื่องเดียวกัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรเราจะบอกให้คร่าว ๆ นะคะ          ต้องบอกก่อนว่าซีรีส์เรื่องนี้ได้ทำมาจากเว็บตูนของเกาหลี Daum Webtoon ที่มีชื่อเรื่องว่า  Friend Contract  ที่เขียนโดย Kwon Laad และเจ้าตัวยังมีส่วนร่วมกับซีรีส์เรื่องนี้ด้วยจึงทำให้ซีรีส์เรื่องนี้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเรื่องนี้ไม่ได้มีเพียงเรื่องชีวิตในวัยเรียนยังมีเรื่องสังคมภายนอกมาเกี่ยวข้องด้วยเรื่องราวจะเป็นอย่างไรตามไปดูกันเลยขอแนะนำตัวละครก่อนนะคะ ตัวละครหลัก ๆ ของเรื่องนี้มีอยู่ 6 คน คือพัค ชานฮง (รับบทโดย อี ชินยอง) จากซีรีส์เรื่อง Crash Landing on You รับบทเป็นสหายพัคกวางบอม แต่ในเรื่องนี้มีฉายาว่านินจา เก่งเรื่องบทกลอนและสนใจในตัว ออม เซยุนออม เซยุน (รับบทโดย คิม โซฮเย) ผู้หญิงที่ฮ็อตที่สุดในโรงเรียนฮอ ดอนฮยอก (รับบทโดย ชิน ซึงโฮ) เขามีฉายาว่า Iron man เพราะเชี่ยวชาญในเรื่องการต่อสู้ชอล มิรา (รับบทโดย มิน ดูฮี) เพื่อนของ ออม เซยุน *คนหน้าสุดนะคะโอ คยองโพ (รับบทโดย โอ ฮีจุน) เพื่อนสนิทของ พัค ชานฮง *คนที่ใส่แว่นนะคะชิน ซอจัง (รับบทโดย โจ อีฮยอน) แฟนของ ฮอ ดอนฮยอก ที่ฆ่าตัวตายในโรงเรียนและได้ทิ้งคำพูดนึงไว้ก่อนเธอตาย           เรื่องย่อ พัค ชานฮง ในคาบเรียนเขียนกลอนที่คิดอะไรไม่ออกเพื่อนสนิทของเขา โอ คยองโพ จึงบอกให้เขาเขียนเนื้อเพลงสมัยใหม่ที่อาจารย์หัวโบราณคิดไม่ถึง แต่เขากลับได้รับคำชมจากอาจารย์ว่าเขียนกลอนได้ดี อาจารย์ของเขาจึงเลือกเขาเป็นตัวแทนของโรงเรียนไปแข่งขันเขียนกลอน แต่ก็ได้ไปแข่งกับ ออม เซยุน ที่เป็นสาวฮ็อตที่สุดในโรงเรียนเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งวาดภาพเหมือนกัน ทำให้ทั้งสองได้สนิทกันมากขึ้น หลังจากที่ไปแข่งขันผลปรากฎว่าทั้งสองชนะการแข่งขันทั้งคู่ และนั้นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เพราะพัค ชานฮงดันไปเขียนบทกลอนที่เคยได้ยินมาจากรุ่นพี่ชิน ซอจังที่เป็นคำใบ้ก่อนตาย จึงทำให้ออม เซยุน และฮอ ดอนฮยอกสงสัยว่าพัค ชานฮงก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการตายที่เกิดขึ้นแน่นอน พัค ชานฮงถูกเพื่อนคนหนึ่งในห้องแกล้งบ่อยมากจึงทำให้ ฮอ ดอนฮยอกมีข้อแลกเปลี่ยนกับพัค ชานฮงว่าถ้าจะขอความช่วยเหลือจากเขาก็ได้แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน พัค ชานฮงทนไม่ไหวกับสิ่งที่โดนแกล้งจึงต้องขอความช่วยเหลือจากฮอ ดอนฮยอก หลังจากนั้นก็ทำให้พัค ชานฮงต้องมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องการตายของชิน ซอจังแฟนของฮอ ดอนฮยอก นั่นคือข้อแลกเปลี่ยนของฮอ ดอนฮยอก หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มจะสืบเรื่องการตายของชิน ซอจัง และวันนั้นมีป้าห้องเช่ามาเก็บเงินค่าเช่าบ้านที่ฮอ ดอนฮยอกเช่าอยู่ แต่เขาไม่มีเงินจ่าย พัค ชานฮงจึงเอาเงินค่าเรียนพิเศษจ่ายให้ไปก่อนพอไม่ได้ไปเรียนพิเศษพัค ชานฮงก็มาหาฮอ ดอนฮยอกเรื่อย ๆ และที่สำคัญก่อนตายชิน ซอจังได้ทิ้งโทรศัพท์ไว้กับออม เซยุน ออม เซยุนจึงเอาโทรศัพท์ไปให้พัค ชานฮง เขาจึงเก็บไว้เพราะไม่อยากให้ออม เซยุนเป็นอันตราย จนสุดท้ายฮอ ดอนฮยอกรู้ว่าโทรศัพท์อยู่ที่พัค ชานฮงจึงขอเก็บไว้ที่ตนเองในโทรศัพท์มีคลิปค้าประเวณีเด็กผู้หญิง อีกทั้งยังเห็นหน้าของผู้หญิงที่เป็นเจ้าของกิจการนี้อีกด้วย ทำให้เรื่องนี้มีเงื่อนงำของการตายชิน ซอจังทำให้ทุกคนต้องตามหาว่าเรื่องนี้มีความเป็นมาอย่างไรกันแน่ แล้วบทกลอนที่ทิ้งไว้ก่อนตายนั่นคืออะไร ต้องบ่งบอกถึงเรื่องนี้แน่นอน บทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามเรื่อง How to Buy a Friend กันนะคะ          เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องการสืบหาการตายเพียงอย่างเดียวยังมีความอบอุ่นเรื่องครอบครัว ความเป็นเพื่อน และยังมีฉากรักให้ดูเล็ก ๆ น้อย ๆ และสุดท้ายยังพูดถึงเรื่องความฝันของเด็ก ๆ ที่อายุ 18 ปี ที่กำลังจะไปต่อมหาลัยทางเลือก ถึงจะมี 8 EP แต่การดำเนินเรื่องไม่ได้เร็วมาก เรื่องราวค่อย ๆ เล่า และแต่ละตอนจะค่อย ๆ เฉลยที่ละน้อย ทำให้น่าติดตามไปจนถึงตอนสุดท้ายเลยหละคะ          สำหรับเราเรื่องนี้น่าสนใจมากดูได้เพลิน ๆ เพราะเป็นแนวที่เราชอบด้วยถึงจะเป็นซีรีส์นักเรียนใส ๆ แต่การที่มีเรื่องสังคมเข้ามาเกี่ยวทำให้สนุกและดูตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นถ้าเรื่องซับซ้อนกว่านี้ก็จะยิ่งสนุกอาจจะเป็นเพราะเรื่องมันสั้นไปจึงทำให้ยังไม่สุด และช่วงสุดท้ายเราคิดว่าฮอ ดอนฮยอกยอมให้เรื่องทุกอย่างจบง่ายเกินไปทั้ง ๆ ที่มันยังยื้อกันไปได้อีก แต่ก็ยังมีการช่วยเหลือของเพื่อนเข้ามาแทนก็พอให้อภัยได้ค่ะ แล้วเราคิดว่าตัวละครของออม เซยุนยังดูไม่น่าเชื่อพอเพราะคาเรคเตอร์คือสาวฮ็อตในโรงเรียนแต่ในเรื่องเราคิดว่านางดูไม่ได้ฮ็อตอย่างที่วางไว้ แต่รวม ๆ ซีรีส์เรื่องนี้ก็โอเคค่ะ ซีรีส์แนว ๆ นี้ของเกาหลีมีให้ดูเยอะมากสามารถไปหาดูเพิ่มได้นะคะ ถ้ายังดูเรื่องนี้แล้วไม่สะใจพอ ฮ่า ๆสามารถติดตามซีรีส์ได้ที่ : Vikiขอบคุณภาพประกอบจาก : KBS 드라마

รถ EV แบตเตอรี่ Solid-state จะได้เกิดไหม หรือสุดท้ายจะได้แค่ฝัน ?
อ่าน

รถ EV แบตเตอรี่ Solid-state จะได้เกิดไหม หรือสุดท้ายจะได้แค่ฝัน ?

รถ EV ที่ใช้แบตเตอรี่แบบโซลิดสเตท (Solid-state) ถือเป็นฝันของทั้งคนใช้และผู้ผลิตรถ เพราะมีสมรรถนะสูง มีระยะทางต่อการชาร์จหนึ่งครั้งมากกว่าแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ใช้กับรถ EV ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม อุปสรรคและต้นทุนการพัฒนาที่สูงลิ่ว ก็ทำให้ฝันนี้ล่าช้าออกไป หรือสุดท้ายแล้ว รถ EV แบตเตอรี่ Solid-state จะเป็นได้แค่ความฝัน? แบตเตอรี่ Solid-state คืออะไรแบตเตอรี่ Solid-state ถูกค้นพบในช่วงทศวรรษที่ 1830 ว่าสารประกอบระหว่างแร่เงินและซัลเฟอร์ และสารประกอบระหว่างตะกั่วกับฟลูออรีน สามารถสร้างสารอิเล็กโทรไลต์ (Electrolyte) หรือสารที่ละลายน้ำแล้วให้ประจุไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องอยู่ในรูปร่างของเจลแบบลิเทียมไอออน แต่เป็นรูปแบบของแข็งแทนแบตเตอรี่ Solid-state ถูกพูดถึงอีกครั้งโดยโตโยต้า (Toyota)โฟล์คสวาเกน (Volkswagen) ฮอนด้า (Honda) นิสสัน (Nissan) บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ฮุนได (Hyundai) ในช่วงปี 2017-2018 รวมถึงค่ายรถ BYD และ CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ EV ชื่อดังจากจีน ที่ร่วมสงครามการพัฒนาแบตเตอรี่แบบ Solid-state ในภายหลังจุดเด่นสำคัญของแบตเตอรี่ Solid-state อยู่ที่ความปลอดภัยและความทนทาน เนื่องจากประจุภายในเป็นสารที่อยู่ในรูปของแข็ง ต่างจากลิเทียมไอออนที่เป็นสารเหลว นอกจากนี้ ยังมีระยะเวลาในการชาร์จที่สั้นกว่า และระยะทางที่ได้มากเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนในความจุเท่ากัน แบตเตอรี่ Solid-state ในปัจจุบันสำนักข่าว CNBC ของสหรัฐอเมริกา รายงานความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในวงการรถยนต์ว่า การผลิตแบตเตอรี่ Solid-state อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเร็วนัก เนื่องจากต้นทุนการวิจัยและพัฒนาที่สูงเกินกว่าตลาดจะรับไหวแม้ว่าผู้ผลิตแบตเตอรี่รถ EV รายใหญ่จากจีนอย่าง BYD และ CATL ต่างได้เปรียบจากแหล่งทรัพยากรและเงินทุนมหาศาลแต่การทำแบตเตอรี่ Solid-state เชิงพาณิชย์ก็ยังอยู่ระหว่างพัฒนาด้านนิสสัน (Nissan) แม้จะให้คำมั่นว่าลูกค้าจะได้เห็นรถ EV ที่ใช้แบตเตอรี่ Solid-state ได้ในปี 2028 นี้ แต่ก็กังวลว่าตลาดรถยังไม่พร้อมรับเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้การเติบโตของเทคโนโลยีนี้ล่าช้า ซึ่งทางบริษัทกำลังจับตากระแสทางการตลาดอย่างใกล้ชิดส่วนค่ายรถยุโรปอย่างโวล์คสวาเกน (Wolksvagen) รวมถึงเมอเซเดส เบนซ์ (Mercedes-Benz) และบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ก็กำลังสร้างต้นแบบรถ EV แบตเตอรี่ Solid State เพื่อทดสอบอย่างละเอียดเช่นกันทั้งนี้ ในปี 2023 ที่ผ่านมา TNN Techได้รายงานข่าวการประกาศของโตโยต้า (Toyota) ว่าได้พัฒนาแบตเตอรี่ Solid-state ที่มีน้ำหนัก, ขนาด, และต้นทุนเพียงครึ่งหนึ่งของแบตเตอรี่ในปัจจุบัน และยังมีระยะทางวิ่งไกลถึง 1,200 กิโลเมตร ด้วยระยะเวลาชาร์จเพียง 10 นาที ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2027 นี้ด้วยเช่นกันแบตเตอรี่ Solid-state จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังเจออุปสรรคว่าแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออนในปัจจุบันเองก็พัฒนาขึ้นมาก จนมีต้นทุนต่ำลง ความปลอดภัยและระยะทางต่อรอบการชาร์จก็มากขึ้นด้วย เช่น CATL ที่เปิดตัวแบตเตอรี่แบบ LFP ซึ่งใช้เวลาในการชาร์จแค่ 5 นาที ก็สามารถวิ่งได้ไกล 520 กิโลเมตรค่ายรถบางค่าย อย่าง สเตลแลนทิส (Stellantis) เครือบริษัทรถยักษ์ใหญ่ของโลก จึงเลือกวิธีการพัฒนาแบตเตอรี่กึ่งโซลิดสเตท (Semi-solid state) หรือโมดูลแบตเตอรี่ที่มีเซลล์แบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออนและแบบโซลิดสเตทผสมกัน เพื่อให้ตลาดพร้อมรับเทคโนโลยีใหม่ที่ราคาจับต้องได้แทนซึ่งไม่ว่าอนาคตของรถ EV ที่ใช้แบตเตอรี่ Solid State จะไปทิศทางไหน แต่ผู้เชี่ยวชาญที่ให้ข้อมูลกับ CNBC ก็เชื่อว่าจะได้เห็นต้นแบบหรือการขยับตัวครั้งใหญ่ในปี 2027-2028 นี้

MEA จัดอบรมติดตั้ง EV Charger แบบ Normal ให้แก่ช่างไฟฟ้ามืออาชีพ
อ่าน

MEA จัดอบรมติดตั้ง EV Charger แบบ Normal ให้แก่ช่างไฟฟ้ามืออาชีพ

เมื่อวันที่ 2 ก.ค.63 นางสาวผ่องพรรณ กัลลประวิทย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA เป็นประธานพิธีเปิดอบรมหลักสูตรการติดตั้ง EV Charger แบบ Normal ให้แก่ช่างไฟฟ้ามืออาชีพ ภายใต้โครงการสร้างความปลอดภัยจากระบบไฟฟ้า และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ประจำปี 2563 จำนวน 2 รุ่น ระหว่างวันที่ 2-3 กรกฎาคม 2563 ณ ห้องเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ที่ทำการเพลินจิตหลักสูตรการติดตั้ง EV Charger แบบ Normal ดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า และการอัดประจุไฟฟ้า รวมถึงกฏหมาย มาตรฐาน และข้อกำหนดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัย เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับช่างไฟฟ้าที่ผ่านการอบรมและได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาช่างสายไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ 1 จาก MEA ซึ่งเป็นการเพิ่มทักษะ ความรู้ความสามารถในการติดตั้งระบบชาร์จไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าแบบทั่วไป หรือ EV CHARGER แบบ NORMAL ได้ เป็นการต่อยอดพัฒนาช่างฝีมือรองรับแนวโน้มการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตรวมถึงเตรียมให้บริการด้านไฟฟ้าแบบครบวงจรผ่าน Application “MEA e-Fix” เสริมสร้างรายได้ให้แก่ช่างไฟฟ้าในโครงการ ฯ อีกทั้งเป็นเครือข่ายตัวแทน MEA ในการให้บริการประชาชนภายในที่พักอาศัย พื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ#พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานครEnergy for city life, Energize smart livingเกาะติดข่าวที่นี่website: www.TNNThailand.comfacebook : TNNThailandfacebook live : TNN Livetwitter : @TNNThailandLine : @TNNONLINEYoutube Official : TNNThailandInstagram : @tnn_onlineTIKTOK : @tnnonline

ศบค. ชุดเล็ก มีมตินักการทูตเข้าไทย ต้องอยู่ใน State Quarantine
อ่าน

ศบค. ชุดเล็ก มีมตินักการทูตเข้าไทย ต้องอยู่ใน State Quarantine

กรุงเทพฯ ศบค. แจงกรณีนักการทูตเอสโตเนียเข้าประเทศ ยืนยันไม่ติดเชื้อโควิด-19 แต่มติ ศบค. ชุดเล็ก ให้นักการทูตเข้าไทยทุกคน ต้องอยู่ใน State Quarantineนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงที่ทำเนียบรัฐบาล กรณีนักการทูตเอสโตเนีย เดินทางเข้าประเทศ และต้องการจะเข้าพักที่คอนโดมีเนียมหรูแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท เพื่อขอกักตัว 14 วัน แต่ทางคอนโดฯ ไม่อนุญาตให้เข้าพัก เนื่องจากกลัวซ้ำรอยกรณีอุปทูตซูดาน และเป็นห่วงด้านความไม่ปลอดภัยจากโควิด-19 กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงาน แจ้งถึงความเป็นไปในสังคมไทยเรื่องการเข้าพักของผู้เกี่ยวข้องทางการทูต ต่อมา ได้ไปพักที่ Alternative State Quarantine (ASQ) ที่โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยต์ เทอร์มินอล 21 ซึ่งเป็นสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้ขณะที่ ที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจ (ศบค.ชุดเล็ก) มีมติให้นักการทูตทุกคน จากทุกประเทศ ที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ต้องอยู่ใน State Quarantine เป็นเวลา 14 วัน อย่างไรก็ตาม นักการทูตเอสโตเนียรายนี้ยังไม่ได้ติดเชื้อ โดยตรวจก่อนเดินทางมาก็ไม่พบเชื้อ และยังตรวจที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผลเป็นลบ จึงออกมาได้ และขณะนี้สถานการณ์ยังเป็นปกติโฆษก ศบค. ยังแถลงสถานการณ์สืบเนื่องจาก จ.ระยอง ว่า ได้กระชับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอยู่ในวงแคบ คือ ที่โรงแรม ดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง เฉพาะชั้น 7 และ 8 เหลือเพียง 12 คน ซึ่งผลตรวจเป็นลบทั้งหมด แต่ต้องให้กักตัวดูอาการ 14 วัน ที่เหลือเป็นการตรวจโดยสมัครใจ คนที่สงสัยอยากจะตรวจยังสามารถไปตรวจได้ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม มีผู้เข้าตรวจ 1,244 คน ผลตรวจออกมาแล้ว 564 คน ไม่พบเชื้อ ที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนที่ คอนโดมีเนียม ONE X (วันเอ็กซ๊) ตรวจอีก 97 คน อยู่ระหว่างรอผลตรวจเช่นกัน

ลงทะเบียน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เปิดจองพรุ่งนี้!
อ่าน

ลงทะเบียน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เปิดจองพรุ่งนี้!

วันนี้ (14 ก.ค.63) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันว่า รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมสำหรับการลงทะเบียน "เราเที่ยวด้วยกัน" ไว้พร้อมแล้ว และเชื่อว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวน่าจะใช้เงินเพียงแค่ 50% ของกรอบวงเงินที่ขออนุมัติจาก ครม.ไว้ โดยเฉพาะกรอบวงเงินที่ใช้การสนับสนุนค่าโรงแรมที่พัก รวมทั้งค่าสนับสนุนร้านอาหาร และค่าเข้าแหล่งท่องเที่ยว ที่ตั้งกรอบวงเงินไว้ 1.8 หมื่นล้านบาทแต่อย่างไรก็ตามคงต้องประเมินผลการเข้ามาใช้สิทธิ์จองที่พักของผู้ที่เข้ามาลงทะเบียนร่วมโครงการก่อนว่าจะเต็มทั้งหมด 5 ล้านคืน และมีเงินเหลืออยู่เท่าใด เพราะประเมินว่า คนส่วนใหญ่คงจองห้องพักราคาเฉลี่ยแค่คืนละ 1,000 – 3,500 บาทเท่านั้นดังนั้น หากมีเงินเหลืออยู่เป็นไปตามที่คาดไว้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะคุยกับกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอ ครม.ขอขยายจำนวนห้องพักเพิ่มเติมให้กับผู้ที่เข้ามาจองห้องพักไม่ทันในรอบแรกด้วยนายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า การทำโครงการครั้งนี้จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางและใช้จ่ายภายในประเทศ เพราะสานการณ์ท่องเที่ยวตอนนี้ต้องฝากความหวังไว้ที่การเดินทางของคนไทยเที่ยวไทยเป็นหลัก พร้อมตั้งเป้าหมายทั้งปีว่า จะต้องมีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.23 ล้านล้านบาททั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรุ่งนี้ (15 ก.ค.) จะเป็นวันแรกของการเปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.comโดยจะเริ่มเปิดจองตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. ทุกวันเพื่อรับสิทธิ์ส่วนลดค่าที่พัก ค่าอาหารและค่าตั๋วเครื่องบินจากรัฐบาล 40% โดยคาดว่าประชาชนจะแห่จองรับสิทธิ์เต็มตั้งแต่วันแรกสำหรับคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ มีดังนี้- เป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน- มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียนต้องเลือกท่องเที่ยว กิน และพักในจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดตามทะเบียนบ้านของตนเอง- ต้องมีสมาร์ทโฟนที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ ท่องเที่ยว ที่พัก และสิทธิประโยชน์อื่นๆ- ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “เป๋าตังค์” และยืนยันตัวตนในแอปฯ รอไว้ข่าวที่เกี่ยวข้อง8 คำถามยอดฮิต! ลงทะเบียน www.เราเที่ยวด้วยกัน.comเช็กกันหรือยัง! ระบบเปิดค้นหาโรงแรม ร้านอาหาร เข้าร่วม "เราเที่ยวด้วยกัน"ที่เดียวครบ! วิธีลงทะเบียน จองโรงแรม รับเงินคืน ใช้คูปอง www.เราเที่ยวด้วยกัน.comเกาะติดข่าวที่นี่website: www.TNNThailand.comfacebook : TNNThailandfacebook live : TNN Livetwitter : @TNNThailandLine : @TNNONLINEYoutube Official : TNNThailandInstagram : @tnn_onlineTIKTOK : @tnnonline

ส่องหนุ่ม Quang Hung MasterD เจ้าของเพลงดังใน TikTok เพลง De Den De Di
อ่าน

ส่องหนุ่ม Quang Hung MasterD เจ้าของเพลงดังใน TikTok เพลง De Den De Di

 มาส่อง Quang Hung MasterD หนุ่มหล่อสัญชาติเวียดนาม เจ้าของเพลงฮิตใน TikTok เพลง De Den De Di ที่ใครฟังแล้วก็ต้องหลงเสน่ห์ในความความหล่อและน้ำเสียงที่สาวๆ ฟังแล้วเคลิ้มกันเป็นแถว เชื่อว่าใครหลายคนคงเคยฟังเพลงกันแล้ว งั้นมาส่องลุคหนุ่มหล่อสัญชาติเวียดนามคนนี้กันดีกว่า ว่าจะโดนใจสาวๆ ไทยกันมากแค่ไหน ลุคแรกกับเสื้อยืดสีดำทับด้วยเสื้อคลุมลายตารางสีเทา ใส่กับกางเกงยีนขายาวสีดำ มีเครื่องประดับเป็นสร้อยคอ กำไรข้อมือ และแหวน เป็นลุคหนุ่มละมุน ลุคที่ 2 กับเสื้อแขนยาวลายอาร์ตๆ ใส่กับกางเกงยีนขายาว มีเครื่องประดับเป็นสร้อยคอ เป็นลุคที่สบายๆ แต่ก็ยังเท่ ลุคที่ 3 เป็นเสื้อยืดสีขาวทับด้วยเสื้อแขนยาวลายสก๊อตสีเหลือง ใส่กับกางเกงยีนขายาวสีเข้ม มีเครื่องประดับเป็นต่างหู สร้อยคอ และแหวน เป็นลุคหนุ่มน้อยน่ารัก ลุคที่ 4 เป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวทับด้วยเสื้อแขนยาวลายสก๊อตสีเอิร์ธโทนน้ำตาล ใส่กับกางเกงยีนขายาว มีเครื่องประดับเป็นสร้อยคอ กำไรข้อมือ แหวน และแว่นตา เป็นลุคหนุ่มแว่นสุดน่ารัก ลุคที่ 5 เป็นเสื้อยืดสีเอิร์ธโทนสีน้ำตาล ใส่กับกางเกงยีนขายาวเท่ๆ มีเครื่องประดับเป็นสร้อยคอ กำไรข้อมือ ต่างหู เป็นลุคหนุ่มสุด ลุคที่ 6 เป็นเสื้อเชิ้ตลายอาร์ตสีสดใส กับกางเกงขายาวสีดำ มีเครื่องประดับเป็นสร้อยคอ กำไรข้อมือ และต่างหู เป็นลุคหนุ่มสุดเท่ ลุคที่ 7 เป็นเสื้อยืดสีดำกับเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ ใส่กับกางเกงขายาวสีดำ มีเครื่องประดับเป็นกำไรข้อมือ แหวน และต่างหู เป็นลุคหนุ่มอปป้าเกาหลี ลุคที่ 8 เป็นเสื้อแขนยาว กับกางเกงขายาวสีดำ มีเครื่องประดับเป็นสร้อยคอกับต่างหู เป็นลุคหนุ่มน่ารัก ลุคที่ 9 เป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำลายขาว มีเครื่องประดับเป็นต่างหู กับแมวน้อย เป็นลุคหนุ่มอบอุ่น ลุคที่ 10 เป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวทับด้วยสูทสีครีม มีเครื่องประดับเป็นสร้อยคอ กำไรข้อมือ และต่างหู เป็นลุคหนุ่มหล่อนายแบบ ลุคที่ 11 เป็นเสื้อยืดสีขาวทับด้วยเสื้อแขนยาวลายเสือ ใส่กับกางเกงยีนขายาวสีดำ มีเครื่องประดับเป็นสร้อยคอกับแว่นตา เป็นลุคหนุ่มหล่อสุดเท่ ลุคที่ 12 เป็นเสื้อยืดสีดำทับด้วยเสื้อยีนแขนยาวสีดำ ตัดกับสีผมสีเทา มีเครื่องประดับเป็นต่างหู เป็นลุคอปป้าเท่ๆ ลุคที่ 13 เป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวทับด้วยแจ็คเก็ตสีครีม มีเครื่องประดับเป็นสร้อยคอ กำไรข้อมือ และแว่นตา เป็นลุคหนุ่มละมุน น่ารักมาก ลุคที่ 14 ลุคสุดท้ายเป็นเสื้อยืดสีดำ ใส่กับกางเกงยีนขายาว มีเครื่องประดับเป็นสร้อยคอ กำไร แหวน ต่างหู และหมวกสีดำ เป็นลุคหนุ่มเท่ๆ  หลังจากส่องลุคทั้ง 14 ของหนุ่ม Quang Hung MasterD กันไปแล้ว มีลุคไหนโดนใจกันบ้าง และหากใครสนใจติดตามหนุ่มหล่อคนนี้ ติดตามได้ใน IG : quanghung.masterd กันเลย  ที่มาของภาพหน้าปก : รูปภาพหน้าปกที่ 1 จาก quanghung.masterd/ รูปภาพหน้าปกที่ 2 จาก quanghung.masterd/ รูปภาพหน้าปกที่ 3 จาก quanghung.masterdที่มาของภาพประกอบ : รูปภาพที่ 1 จาก quanghung.masterd/รูปภาพที่ 2 จาก quanghung.masterd/รูปภาพที่ 3 จาก quanghung.masterd/รูปภาพที่ 4 จาก quanghung.masterd/รูปภาพที่ 5 จาก quanghung.masterd/รูปภาพที่ 6 จาก quanghung.masterd/รูปภาพที่ 7 จาก quanghung.masterd/รูปภาพที่ 8 จาก quanghung.masterd/รูปภาพที่ 9 จาก quanghung.masterd/รูปภาพที่ 10 จาก quanghung.masterd/รูปภาพที่ 11 จาก quanghung.masterd/รูปภาพที่ 12 จาก quanghung.masterd/รูปภาพที่ 13 จาก quanghung.masterd/รูปภาพที่ 14 จาก quanghung.masterd

ทำไมถึงไม่ควรนำน้ำมัน E85 มาทำความสะอาด ทั้งที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ถึง 85 %
อ่าน

ทำไมถึงไม่ควรนำน้ำมัน E85 มาทำความสะอาด ทั้งที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ถึง 85 %

เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนากำลังระบาด ทำให้อุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงแอลกอฮอล์ซึ่งใช้ในการฆ่าเชื้อโรคเป็นที่ต้องการอย่างมาก ไม่เพียงพอต่อความต้องการและมีราคาที่สูงขึ้นเลยทีเดียวครับ หลาย ๆ คนจึงมีแนวคิดในการนำน้ำมัน E85 มาใช้ในการล้างมือฆ่าเชื้อโรค วันนี้ผมเลยอยากจะมาเล่าและอธิบายข้อมูลว่า ทำไมเราถึงไม่ควรนำน้ำมัน E85 มาทำความสะอาด ทั้งที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ถึง 85 % ให้ทุก ๆ ท่านได้อ่านกันครับ ที่มาภาพ : freepik.com ก่อนอื่นผมต้องขออธิบายก่อนนะครับว่า แอลกอฮอล์ (Alcohol) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ เอทิลแอลกอฮอล์ (Ethyl alcohol) ที่ใช้ในการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคนั้น โดยส่วนมากจะนิยมสารละลายแอลกอฮอล์ที่ความเข้มข้น 70% เนื่องจากการระเหยไม่เร็วเกินไป มีปริมาณน้ำเพียงพอที่จุลินทรีย์จะดูดซึมและออกฤทธิ์ทำลายเซลล์เชื้อโรค ในขณะที่แอลกอฮอล์ 95% - 100% จะมีการระเหยรวดเร็วมากอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้ฆ่าเชื้อโรคแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังพบว่าแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นน้อยกว่า 50% จะมีประสิทธิภาพในการทำลายจุลินทรีย์ที่ลดน้อยลงมากนั้นเองครับ ที่มาภาพ : freepik.com ส่วนคำถามที่ว่า "เราสามารถเอาน้ำมัน E85 มาทำความสะอาดฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนา แทนเจลล้างมือในยุคที่ขาดแคลน ได้ไหมครับ?" คงต้องอธิบายกันก่อนอีกเช่นกันครับว่า E85 คือน้ำมันที่มีส่วนผสมของ เอทานอล (เอทิลแอลกอฮอล์) 85% กับอีก 15% คือน้ำมันเบนซิน (หมายความว่าถ้าเรามีน้ำมัน E85 จำนวน 100 ลิตร จะมีเอทานอล 85 ลิตร และอีก 15 ลิตร จะเป็นน้ำมันเบนซิน) ถ้าถามว่าฆ่าเชื้อไรคได้ไหม คำตอบคือ ได้นะครับ "แต่ไม่ควร" เพราะจะได้รับอันตรายจากการที่น้ำมันเบนซินเข้าสู่ร่างกายไปด้วย และที่สำคัญคือเป็นสารไวไฟ อาจจะอันตรายจากการติดไฟได้ครับ ได้ไม่คุ้มเสียกันเลยทีเดียวเชียว ที่มาภาพ : freepik.com ซึ่งน้ำมันเบนซิน เป็นของผสมไฮโดรคาร์บอนระหว่างพาราฟินทั้งชนิดอิ่มตัว ไม่อิ่มตัว และอโรมาติกไฮโดรคาร์บอน นอกจากนี้ในน้ำมันเบนซินอาจจะมีส่วนผสมของ MTBE เพื่อเพิ่มค่า Octane ในน้ำมัน หรือมีอาจจะมีกำมะถันเป็นส่วนประกอบ ทำให้มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ เช่น ระบบทางเดินหายใจจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตา ระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินหายใจ ระคายเคืองต่อผิวหนังในกรณีที่ได้รับ ในระบบประสาทส่วนกลาง จะมีพิษระคายเคืองที่ผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ อาเจียน ประสาทหลอนและซึม วิงเวียนกระวนกระวาย เบื่ออาหาร และเมื่อได้รับพิษสะสมในร่างกายเป็นเวลานานอาจทำให้เป็นมะเร็งได้ สุดท้ายนี้นะครับ ถ้าไม่ลำบากเกินไป ผมขอแนะนำให้ใช้สบู่ทดแทนซึ่ง พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้อธิบายว่าเชื้อไวรัสโคโรนาจะมีกระเปาะหุ้มตัวเอง ซึ่งการล้างมือด้วยน้ำและสบู่ธรรมดา สามารถที่จะทำลายกระเปาะหุ้มตัวนี้ได้ เมื่อไม่มีกระเปาะหุ้มตัวเชื้อไวรัสก็จะตาย ดังนั้น การล้างมือด้วยน้ำและสบู่ธรรมดา สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาได้ เพราะฉะนั้น การใช้สบู่สมุนไพรหรือสบู่ฆ่าเชื้อต่างๆ ที่มีคุณสมบัติมากไปกว่านั้น ก็สามารถฆ่าเชื้อไวรัสตัวนี้ได้เช่นกัน โดยการล้างมือก็เลือกให้เหมาะสมครับ

ส่องสเปคนาฬิกา Grand Seiko Evolution 9 Spring Drive U.F.A. Limited Edition
อ่าน

ส่องสเปคนาฬิกา Grand Seiko Evolution 9 Spring Drive U.F.A. Limited Edition

หลายคนคงยังจำกันได้ว่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมา Grand Seiko เปิดตัวคอลเลกชัน Spring Drive U.F.A. (Ultra Fine Accuracy) ที่ผสมผสานปรัชญาญี่ปุ่นเข้ากับวิศวกรรมสมัยใหม่ได้อย่างงดงาม จนกลายเป็นมาตรฐานใหม่ด้านความเที่ยงตรงของกลไกที่ใช้พลังงานจากเมนสปริง โดยรุ่นแรกทำจากแพลทินัมพร้อมหน้าปัดสีน้ำเงิน และรุ่นต่อมาทำจากไทเทเนียมพร้อมหน้าปัดเงิน วันนี้คอลเลกชันอันน่าประทับใจได้สมาชิกใหม่อีกครั้ง กับการเปิดตัว Grand Seiko Evolution 9 Spring Drive U.F.A. Limited Edition SLGB005 ที่มาพร้อมวัสดุ Ever-Brilliant Steel และหน้าปัดสีม่วงที่เปล่งประกายราวรุ่งอรุณเหนือผืนน้ำแข็งได้อย่างงดงาม หน้าปัดสีม่วง ความงามแห่งรุ่งอรุณเหนือผืนน้ำแข็ง แรงบันดาลใจของหน้าปัดมาจาก ทุ่งคิริกามิเนะ ที่อยู่ใกล้กับ Shinshu Watch Studio ซึ่งในฤดูหนาวปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็ง เมื่อตะวันขึ้นยามเช้า เหล่าต้นไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยเกล็ดน้ำแข็งจะสะท้อนแสงสีม่วงอันนุ่มนวล ราวกับผืนป่าค่อยๆ ตื่นขึ้นจากความเงียบสงบ หน้าปัด SLGB005 ถ่ายทอดภาพนั้นผ่านพื้นผิวที่แกะลายอย่างประณีต โดยใช้สีม่วงเข้มที่ขอบไล่โทนสว่างขึ้นตรงกลาง เกิดเป็นเอฟเฟกต์แบบ dgrad ให้ความรู้สึกเสมือนท้องฟ้ากำลังเปลี่ยนจากรัตติกาลสู่รุ่งอรุณ เสริมด้วย เข็มวินาทีสีเงินที่เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในสไตล์ Spring Drive ยิ่งขับบรรยากาศอันสงบและงดงาม งานออกแบบในสไตล์ Evolution 9 ตัวเรือนผลิตจาก Ever-Brilliant Steel โลหะผสมสเตนเลสที่พัฒนาโดย Grand Seiko ซึ่งมีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูงกว่าสแตนเลสมาตรฐาน และยังสะท้อนแสงขาวสว่างมากกว่า ผิวตัวเรือนถูกขัดแบบ Zaratsu สลับผิวด้านและผิวเงา ให้แสงและเงาเล่นกับเหลี่ยมมุมได้อย่างมีมิติ ขนาดตัวเรือน 37 มิลลิเมตร หนา 11.4 มิลลิเมตร และ lug-to-lug 44.3 มิลลิเมตร อยู่ในมิติที่กำลังพอดีสำหรับผู้สะสมรุ่นใหม่ที่นิยมตัวเรือนบางและกะทัดรัด ฝาหลังแซฟไฟร์ใสเผยให้เห็นงานตกแต่งของกลไก ซึ่งจำลองแรงบันดาลใจจากเกล็ดน้ำแข็งในป่าชินชู เสริมด้วยพลอยสีสดใสเปล่งประกายราวดวงดาวเหนือภูเขาในฤดูหนาว นอกจากนี้ ตัวกระจกหน้าปัดยังใช้แซฟไฟร์ทรงกล่อง เคลือบสารกันแสงสะท้อนด้านในเพื่อความคมชัดสูงสุด กันน้ำได้ 100 เมตร ทนแม่เหล็กได้ 4,800 A/m น้ำหนักรวมเพียง 151 กรัม สวมใส่สบายในทุกโอกาส และเพิ่มความสะดวกด้วยสายสเตนเลส Ever-Brilliant Steel จับคู่กับหัวล็อกแบบสามทบ พร้อมปุ่มกดปลดล็อก เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยอีกขั้น ความพิเศษอยู่ที่ตัวล็อกมีการผสมวัสดุ ไทเทเนียมและโรสโกลด์ 18 กะรัต สะท้อนความหรูหราอย่างมีรสนิยมได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว ความแม่นยำระดับ Ultra Fine Accuracy หัวใจสำคัญของเรือนเวลานี้คือ กลไก Spring Drive Calibre 9RB2 ที่มอบความเที่ยงตรงในระดับ 20 วินาทีต่อปี หรือราว 3 วินาทีต่อเดือน ตัวเลขที่น่าทึ่งนี้เกิดจากกระบวนการเลือกและบ่มควอตซ์ออสซิลเลเตอร์นานถึงสามเดือน ก่อนจะทำการวัดค่าความถี่ในอุณหภูมิที่หลากหลาย และข้อมูลที่ได้ถูกบันทึกลงใน IC พลังงานต่ำ เพื่อปรับชดเชยอุณหภูมิอย่างแม่นยำ ทั้งออสซิลเลเตอร์และเซนเซอร์ยังถูกซีลสุญญากาศ เพื่อลดผลกระทบจากความชื้น ไฟฟ้าสถิต และแสง ทำให้การทำงานมีความเสถียรสูงสุด อีกทั้งยังมาพร้อม regulation switch สำหรับการปรับความแม่นยำระหว่างการเซอร์วิสในอนาคต กลไกนี้ยังสำรองพลังงานได้ 72 ชั่วโมง ใช้ทับทิม 34 เม็ด และติดตั้งเข็มพลังงานสำรองเพื่อให้ผู้สวมใส่ใช้งานได้อย่างมั่นใจ สเปกสำคัญ รุ่น: Grand Seiko Evolution 9 Spring Drive U.F.A. Limited Edition รหัส: SLGB005 ตัวเรือน: Ever-Brilliant Steel 37 มม. หนา 11.4 มม. กระจก: แซฟไฟร์ทรงกล่อง เคลือบกันแสงสะท้อนด้านใน กันน้ำ: 100 เมตร (10 บาร์) กันแม่เหล็ก: 4,800 A/m น้ำหนัก: 151 กรัม หน้าปัด: ลาย Ice Forest สีม่วงไล่เฉด กลไก: Spring Drive Calibre 9RB2 อัตโนมัติ สำรองพลังงาน 72 ชม. 20 วินาทีต่อปี ฟังก์ชัน: ชั่วโมง นาที วินาที วันที่, พลังงานสำรอง สาย: Ever-Brilliant Steel พร้อมหัวล็อกสามทบ (ผสมไทเทเนียมและโรสโกลด์ 18 กะรัต) จำนวนผลิต: 1,300 เรือน ราคา: ประมาณ 9,500 / 11,000

State Of Survival ยิงซอมบี้สุดมัน
อ่าน

State Of Survival ยิงซอมบี้สุดมัน

สวัสดีครับ วันนี้ก็จะมาแนะนำเกมยิงซอมบี้นะครับ คุณสามารถอัพเกรดอาวุธอัพเกรดตัวละครอัพเกรดทหารอัพเกรดฐานทัพของคุณได้ เพื่อที่จะนำการอัพเกรดพวกนี้ไปต่อสู้รบกับซอมบี้เพื่อให้ได้ชัยชนะมาเกม State Of Survival เป็นเกมแนวยิงซอมบี้ไล่ล่าซอมบี้ที่น่าสะพรึงกลัว เราสามารถอัพเกรดอาวุธอัพเกรดตัวละครสร้างอาณาจักรที่เอาไว้ล้มล้างซอมบี้และสัตว์ประหลาด ต่างๆ ที่ติดเชื้อไวรัส เราสามารถวางกลยุทธ์การต่อสู้กับซอมบี้ได้หลากหลายรูปแบบ ภายในเกมมีภารกิจมากมายที่มาใหม่มี Event ที่หลากหลายมีสกิลสุดเท่ของแต่ตัวละครไม่ซ้ำกัน สิ่งที่ทำให้ผมชอบเกมนี้เลยก็คือมีตัวละครให้เลือกหลากหลายตัวละครอัพเกรดตัวละครได้อัพเกรดอาวุธได้อัพเกรดสกิลได้ มีด่านต่อสู้กับซอมบี้หลากหลายด่าน มีการอัพเดทเมืองได้หลากหลายเมืองแต่ละเมืองมีความสามารถที่แตกต่างกันไป มีกราฟิกที่สวยงามเล่นแล้วไม่สะดุดแต่หาเงินภายในยากนิดหน่อย เมื่อมี Event ทำให้การหาเงินง่ายไปเลยหากเราทำตามกิจกรรมภายที่ Event กำหนดเราก็จะสามารถได้รับเงินในเกมมากมาย อันนี้เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปเพราะมีความรุนแรงระดับปานกลางไม่มีโฆษณาภายใน Application มีรางวัลพิเศษมากมายให้ผู้เล่นทุกวัน ขนาดของเกมนั้นมีขนาด 139 MB เปิดให้ดาวน์โหลดเกมในปี 2562คุณสามารถอัพเกรดเมืองได้หลากหลายเมือง แน่นอนว่าแต่ละเมืองมีความสามารถไม่ไม่เหมือนกันเลยแม้แต่เมืองเดียว แถมที่สามารถอัพเกรดฟรีทันที 3-4 ครั้ง เราสามารถดูระยะเวลากำหนดการอัพเกรดของเมืองที่เราอัพเกรดได้อีกด้วยสิ่งจำเป็นที่เราต้องอัพเกรดเลยคือเมืองฐานทัพทหาร เพราะเราจะเป็นต้องใช้ทหารในจำนวนมากในการรบกับซอมบี้แต่ละด่าน ดังนั้นเราต้องอัพเกรดตัวละครของทหารให้แข็งแกร่งเราสามารถปลดล็อคทหารได้หากเลเวลเราสูงขึ้น เราสามารถอัพเกรดทหารได้หากอุปกรณ์ในการอัพเดทเพียงพอ ยิ่งอัพเกรดมากกำลังทหารและเร็วของทหารก็จะยิ่งเพิ่มสูงมาก การอัพเกรดแต่ละครั้งต้องใช้เวลาในการอัพเกรดของทหารแต่ละนายเราสามารถอัพเกรดตัวละครอาวุธของตัวละครให้แข็งแกร่งขึ้น ไม่มีพลังโจมตีให้มีเร็วเพิ่มขึ้นได้ และเรายังสามารถปลดล็อคตัวละครตัวอื่นได้หากเร็วสูงขึ้นและมีอุปกรณ์ในการปลดล็อคเพียงพอ สามารถเข้าสู้รบกับซอมบี้ได้ทุกเมื่อ ให้เลือกมา 1 ด่านที่ต้องการจะสู้กับซอมบี้ จากนั้นก็คลิกที่ด่านนั้นและจะเข้าไปสู่การต่อสู้้กับซอมบี้ในทันทีคุณสามารถออกจากด่านที่สู้กับซอมบี้ได้และสามารถตั้งค่าต่างๆภายในเกมระหว่างสู้กับซอมบี้ได้ ยังสามารถเก็บของ ต่างๆ ของแต่ละด่านได้ไม่จำกัดยิงซอมบี้แต่ละครั้งเราสามารถเลือกเอาวุฒิมาตั้งถิ่นฐานในการยิงซอมบี้ แล้วยังสามารถติดตั้งระเบิดไว้ระเบิดซอมบี้เมื่อมาเหยียบได้ด้วย คุณจะมีผู้ช่วยเป็นผู้หญิง 1 คนกับหมาอยู่ 1 ตัว ผู้ช่วยผู้หญิงจะช่วยยิงซอมบี้้ส่วนผู้ช่วยที่เป็นหมาจะช่วยไล่กัดซอมบีแล้วเมื่อคุณชนะคุณจะได้อุปกรณ์อัพเกรดอาวุธอัพเกรดตัวละคร และอุปกรณ์หลักที่สำคัญในการอัพเกรดอุปกรณ์ที่สำคัญภายในเกม ที่ช่วยคุณนั้นแข็งแกร่งและสามารถต่อต้านสู้รบกับซอมบี้ได้ในด่านถัดไปคุณสามารถซ่อมแซมหรืออัพเกรดฐานทัพหรือเมืองคุณก็ได้ คุณสามารถซื้อของภายในเกมเติมเงินภายในเกม เข้าร่วมกิจกรรมในเกมไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม Event กิจกรรมรายสัปดาห์กิจกรรมรายวัน คุณสามารถดูกล่องข้อความ ต่างๆ ได้อีกด้วย และสามารถตรวจสอบของที่อยู่ภายในกระเป๋าที่คุณเก็บมาได้อีกด้วยลองไปโหลดมาเล่นกันดูนะครับรับรองว่าสนุกและมันส์อย่างแน่นอนได้ทั้งกลยุทธ์ในการต่อสู้กับซอมบี้และได้ความเพลิดเพลินและสนุกสนานกับเกมนี้โดยไม่เบื่อในการเล่นเกมไล่ยิ่งซอมบี้อย่างแน่นอนภาพทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียนมีเฉพาะ Download android             

Simple Plan x River จ.นครปฐม คาเฟ่ริมน้ำที่ไม่ควรพลาด !!
อ่าน

Simple Plan x River จ.นครปฐม คาเฟ่ริมน้ำที่ไม่ควรพลาด !!

สวัสดีค่ะทุกคน  วันหยุดที่ผ่านมาเราได้แวะไปคาเฟ่ริมแม่น้ำท่าจีน สุดชิล สไตล์ MinimalLoft กำแพงเปิดโล่งสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำท่าจีน  ลมพัดเย็นสบาย  มีผักตบชวาลอยผ่านตาเพลิน ๆ นั่นคือ “ Simple Plan x River ” รับรองว่าหากได้มาที่นี่จะทั้งความชิลล์และภาพสวยๆ อย่างแน่นอน    Simple Plan x River ตั้งอยู่ในอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เดินทางสะดวกใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจาก กทม. ทางเข้าอาจจะดูลึกลับซักนิด ความพิเศษของที่นี่คือการรีโนเวทโกดังเก่า อายุเกือบ 10 ปี ให้กลายเป็นคาเฟ่ สไตล์ Minimal Loft  ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ และเคาน์เตอร์ปูนขัด   เรียบง่ายแต่สวยหรู  ดูดี !! Simple Plan x River  เป็นร้านออกแบบมาในแบบ Open Air  ลมพัดผ่านแบบเบาๆ สามารถสูดออกซิเจนได้อย่างเต็มปอด และสำหรับคนที่ชอบกิจกรรมทางน้ำแล้วนั้นที่นี่มี Sup Board ให้เช่า ด้วยน๊าา ชั่วโมงละ 250 บาทเท่านั้น  วันนี้เราสั่ง Kombucha Rinty  ชาหมัก เปรี้ยวซ่า  ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย  ดูเป็นคนรักสุขภาพ และรสชาติดี อร่อยถูกปากเลยทีเดียว  ตอนนี้ทางร้านมีโปรโมชั่น 3 ขวด  200 บาทด้วย สำหรับเมนูเค้กนั้น ดูน่าทานไปทุกเมนู ที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลาย  ราคาเริ่มต้นที่  100  บาท   สำหรับเมนูเค้กที่ขึ้นชื่อของร้านนี้คือ เค้กช็อกโกแลต รสชาติเข้มข้น  หวานปนขมกำลังดี  เนื้อเค้กนุ่มฟู  ตกแต่งด้วยสตอว์เบอร์รี่สวยงามน่าทานมากๆ  แต่เสียดายเราลืมถ่ายภาพมาให้ชมกัน ^-^ สำหรับบรรยากาศของทางร้านถือว่าดีมาก  น้องๆ พนักงานบริการดี  เครื่องดื่มและขนมก็ราคาไม่แพง ให้คะแนน 10 เต็ม 10 ไปเลยจ้า  !!  และเพื่อนคนไหนที่กำลังมองหาคาเฟ่ดีๆ  บรรยากาศริมน้ำ เดินทางสะดวก  มีที่จอดรถ  Simple Plan x River น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ   ต้องห้ามพลาดเลย !!! สำหรับเราแล้วชอบที่นี่มาก  ด้วยบรรยากาศที่ลงตัว  และได้นั่งมองสายน้ำไหลผ่าน  เพียงแค่นี้ก็คลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวีคได้เป็นอย่างดี !!ครั้งหน้าเราจพาทุกคนไปคาเฟ่ไหน  อย่าลืมติดตามกันนะคะ  !!  ขอบคุณค่ะ --------------------------------ภาพทุกภาพนักเขียนถ่ายเองนะคะ  !! พิกัดเพิ่มเติม !!  Simple Plan x River  เปิดให้บริการทุกวันอังคาร - วันอาทิตย์  เวลา 10.00 น.-18.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)  หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่  080 943 2459  Facebook : Simple Plan x RiverMap : Simple Plan x River  **  ทั้งนี้สามารถจอดรถได้ที่ลานจอดรถของวัดสัมปตาก *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย  https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม  https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565 

รถ EV แบตเตอรี่ “Solid-State” ของ “โตโยต้า” คือม้ามืดแซง EV ทุกเจ้าหรือไม่ ?
อ่าน

รถ EV แบตเตอรี่ “Solid-State” ของ “โตโยต้า” คือม้ามืดแซง EV ทุกเจ้าหรือไม่ ?

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าโตโยต้า (Toyota) กำลังตามตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือ EV ไม่ทัน แต่ทางบริษัทยังคงผลักดันรถยนต์แบบไฮบริดอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดก็เดินหน้าพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่แบบโซลิด-สเตท (Solid-state) แทนแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน (Lithium-ion) ด้วยจุดเด่นสำคัญคือการชาร์จที่รวดเร็วไม่เกิน 10 นาที แต่มีระยะทางวิ่งได้ถึงหลักพันกิโลเมตรคำถามคือ เกมรุกครั้งนี้ของโตโยต้าเป็นการข้ามเหล่าผู้ผลิตรถ EV ทั่วโลกไปข้างหน้า หรือว่าเป็นเพียงการแก้เกมโดยโฆษณาคำโตแบบที่บางฝ่ายออกมาวิจารณ์จุดเริ่มต้นแบตเตอรี่แบบ Solid-stateแบตเตอรี่โซลิด-สเตท ค้นพบโดยไมเคิล ฟาราเดย์ (Michael Faraday) ในช่วงปี 1831-1834 ว่าซิลเวอร์ ซัลไฟด์ (Silver sulfide) หรือสารประกอบระหว่างแร่เงินและซัลเฟอร์ และลีด ฟลูออไรด์ (Lead (II) Fluoride) ที่เป็นสารประกอบระหว่างตะกั่วกับฟลูออรีน สามารถสร้างสารอิเล็กโทรไลต์ (Electrolyte) หรือสารที่ละลายน้ำแล้วให้ประจุไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องอยู่ในรูปของเจลแบบลิเทียม ไอออน แต่เป็นรูปแบบของแข็งแทนแต่การพัฒนาให้เริ่มใช้งานเชิงพาณิชย์ได้นั้นเกิดขึ้นในปี 2011 นำโดยบอลลอร์ (Bollor) บริษัทขนส่งชื่อดังของฝรั่งเศสในปี 2011 แล้วจึงตามมาด้วยโตโยต้า (Toyota) ในการพัฒนาแบตเตอรี่โซลิด-สเตทจากสารลิเทียมซัลไฟด์ (Lithium sulfide) และโฟล์คสวาเกน (Volkswagen) ในปี 2012 ส่วนฮอนด้า (Honda) นิสสัน (Nissan) บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ฮุนได (Hyundai) เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ในช่วงปี 2017-2018กระแสรถยนต์ไฟฟ้าเปลี่ยนทิศทางการพัฒนา EV ของค่ายรถอย่างไรก็ตาม กระแสรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทั้งไฮบริดและแบตเตอรี่ (BEV) ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจากการมาของเทสลา (Tesla) ในปี 2008 ทำให้ค่ายรถบางส่วน เช่น BMW, Mercedess-Benz รวมถึง Hyundai หันไปพัฒนารถยนต์ EV ที่ใช้แบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออนแทนสาเหตุเป็นเพราะต้องแข่งขันกับค่ายรถ EV หน้าใหม่จากทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป และโดยเฉพาะจีนที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด จนได้ค่ายใหญ่หน้าใหม่อย่างเช่น บีวายดี (BYD) เอสเอไอซี (SAIC) เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor: GWM) ในกระแสรถยนต์โลก ซึ่งทำให้โตโยต้าต้องปรับแผนการตลาดครั้งใหญ่ เพื่อไม่ให้ค่ายรถตัวเองกลายเป็นเพียงฉากหลังในตลาดเกิดใหม่นี้ในช่วงปลายปี 2021 โตโยต้า ตัดสินใจประกาศว่าจะเดินหน้าพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่โซลิด-สเตทแทนในอนาคต หลังการเปิดตัวบีซีโฟร์เอกซ์ (bZ4X - Beyond Zero 4 wheel) ได้ไม่กี่เดือน ซึ่งข่าวครั้งนั้นก็สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหลายด้าน โดยมีความเห็นบางส่วนจากอิเล็กเทร็ก (Electrek)สำนักข่าวด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าชื่อดัง มองว่าเป็นเรื่องของการตลาดที่ขาดความน่าเชื่อถือเท่านั้น บางรายมองว่าเป็นการแก้สถานการณ์จากการถูกตีตราว่าเป็น ผู้ปฏิเสธรถ EV รายใหญ่ที่สุดในโลกด้วยแม้ภายหลังจะมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์แล้วก็ตามโตโยต้า จริงจังกับคำว่า Solid-stateแต่เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างโตโยต้า เพราะว่าบีซีโฟร์เอกซ์ (bZ4X) รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกที่เริ่มวางขายในปี 2023 นี้ กลับพบรายงานปัญหาโครงสร้างจนต้องเรียกคืนรถยนต์ที่ขายไปแล้วกว่า 2,700 คันกลับมาแก้ไข ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของโตโยต้าเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตาม ในวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมาโตโยต้าได้ประกาศแผนเดินพัฒนารถยนต์คันใหม่ที่ชูการใช้แบตเตอรี่แบบโซลิด-สเตทพร้อมความสามารถชาร์จพลังงานไฟฟ้าเพียง 10 นาที แต่สามารถทำให้รถวิ่งไกลได้ถึง 1,200 กิโลเมตร ซึ่งจะวางขายจริงในปี 2027 นี้ โดย คาดการณ์ ว่าจะลดต้นทุนการผลิตลงได้ร้อยละ 37 และสูงถึงร้อยละ 50 หากมียอดสั่งจองถึง 2 แสนคัน ในปี 2030ดังนั้น จึงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเป็นไปได้และความน่าไว้วางใจทั้งในไทยและทั่วโลก ทั้งในโลกโซเชียลมีเดียและกูรูในวงการ ตลอดจนสื่อที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ได้รับความสนใจจากทั่วโลกในเวลาเดียวกัน จากความสามารถที่ทำลายขีดจำกัดของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปัจจุบันหากเกิดขึ้นได้จริงล่าสุดเมื่อ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา โตโยต้าได้จับมืออิเดมิตสุ (Idemitsu) บริษัทปิโตรเลียมชื่อดังมาเป็นพันธมิตรเตรียมเดินสายพานผลิตแบตเตอรี่โซลิด-สเตทให้ใช้ได้จริงในการผลิต (Mass production) ตามแผนการที่ประกาศไว้ว่าจะผลิตรถแบตเตอรี่โซลิด-สเตทขายจริงปี 2027 นี้ โดยถือว่านี่คือการก้าวข้ามครั้งสำคัญของบริษัท หลังจากเคยผลักดันเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนแต่ไม่ประสบความสำเร็จจับตาอีก 4 ปี Solid-state คือของดีจริงหรือแค่คำโฆษณาหัวใจของแบตเตอรี่แบบโซลิด-สเตท คือสารอิเล็กโทรไลต์ (Electrolyte) หรือสารที่ละลายน้ำแล้วให้ประจุไฟฟ้าในรูปแบบของแข็ง ซึ่งการก้าวเข้ามาของอิเดมิตสุ (Idemitsu) จะหาวิธีทำให้สารอิเล็กโทรไลต์มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าอิเล็กโทรไลต์แบบเจลของลิเทียมไอออน ซึ่งหากสำเร็จจริงจะทำให้รถ EV มีราคาที่ถูกลงและประสิทธิภาพสูงขึ้น นับเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีครั้งสำคัญของโลกที่นำโดยโตโยต้าตามกล่าวอ้างเอาไว้แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ TNN Tech มองว่า ผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนระดับโลก ทั้ง ซีเอทีแอล (CATL), บีวายดี (BYD) ,แอลจี (LG), พานาโซนิก (Panasonic) ก็มีเวลามากพอในการพัฒนาศักยภาพการชาร์จและความจุของแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนด้วยเช่นกัน สุดท้ายแล้ว ในปี 2027 นี้ จะเป็นปีที่ให้คำตอบได้ว่า แบตเตอรี่โซลิด-สเตทที่โตโยต้าถือนำหน้าในตลาดรถ EV นั้นคือสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ที่มาข้อมูล Reuters,Clean Technica,Topspeed,CNBC,Engadget,Wikipediaที่มารูปภาพToyota

รีวิวซีรีส์ A Superior Day 24 ชั่วโมงกับการช่วยชีวิตลูกสาว
อ่าน

รีวิวซีรีส์ A Superior Day 24 ชั่วโมงกับการช่วยชีวิตลูกสาว

มาพบเจอกันอีกครั้งสำหรับซีรีส์แนวสืบสวนระทึกขวัญ ผลงานการคัมแบคของหนุ่มจินกู นั่นก็คือซีรีส์เรื่อง A Superior Day เล่าเรื่องราวของการตามล่าฆาตกรต่อเนื่องของโฮชอล พนักงานดับเพลิงที่ได้เข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรม จนทำให้ครอบครัวของเขาตกอยู่ในอันตราย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรตามไปอ่านเรื่องย่อและรีวิวซีรีส์พร้อมกันได้เลยค่ะ^^นักแสดงนำจินกู รับบทเป็น อีโฮชอล พนักงานดับเพลิง พยานผู้เห็นหน้าฆาตกรต่อเนื่องฮาโดควอน รับบทเป็น แบแทจิน นักฆ่ามืออาชีพที่ไล่ตามฆาตกรต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขาต้องลักพาตัวลูกสาวของอีโฮชอลอีวอนกึน รับบทเป็น ควอนชีอู ฆาตกรต่อเนื่อง ภายนอกเป็นครูสอนศิลปะของซูอาหน้าตาใสซื่อแต่กลับมีเบื้องหลังที่ชอบทำร้ายหญิงสาวเรื่องย่อ : ผู้หญิงคนหนึ่งถูกพบว่าโดนฆาตกรรมในปารีสวิลล์ ฆาตกรที่ได้ชื่อว่า นักฆ่าริชเกิร์ล และได้เกิดเหตุการณ์มีคนลักพาตัวลูกสาวของโฮชอล เขาต้องการให้โฮชอลตามหานักฆ่าริชเกิร์ลภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยชีวิตลูกสาวของเขา โฮชอลจะทำอย่างไรเพื่อตามหานักฆ่าริชเกิร์ล เขาจะช่วยลูกสาวไว้ได้ไหมต้องไปติดตามชมกันนะคะรีวิวหลังได้รับชมการดำเนินเรื่องเปิดเรื่องด้วยการไล่ล่า อีโฮชอล และย้อนเรื่องราวกลับไปเมื่อ 4ปีที่แล้ว ในขณะที่โฮชอลเป็นพนักงานดับเพลิงได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่หอพักแห่งหนึ่งและได้บังเอิญเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีการฆาตกรรมโดย โฮชอลโดนทำร้ายเข้าที่ดวงตา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการฆาตกรรม พร็อตเรื่องมีความซับซ้อนแนวระทึกขวัญ ตัวละครมีความลึกลับคาดเดาได้ค่อนข้างยากภาพและการตัดต่อด้วยเนื้อหาของซีรีส์เกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่อง อาจจะมีภาพที่รุนแรงงอยู่บ้าง อาทิเช่น เลือด ลักษณะการเสียชีวิตของตัวละครและการฆาตกรรมที่โหดร้าย ซึ่งต้องบอกว่าสามารถตัดต่อภาพออกมาได้ดูสมจริง ออกแนวจิตวิทยาวิธีการทำร้ายเหยื่อของฆาตกรต่อเนื่อง ต้องบอกว่ามีความชวนหลอนแน่นอนค่ะฉาก/ตัวละครที่ชอบเป็นซีนต่อสู้บู๊แอ็กชันของ อีโฮชอล (รับบทโดย จินกู) หากเพื่อน ๆ เคยชมซีรีส์เรื่อง  Descendants of the Sun โดย จินกู รับบทเป็น ซอแดยอง พลทหารหน่วยพิเศษ ต้องบอกว่าเรื่องนี้บทบาทแอบคล้ายกันในการบู๊สุดมันส์ แต่แตกต่างกันที่บทบาทของตัวละคร ซึ่งในตัวละครอีโฮชอล เป็นหัวหน้าครอบครัวด้วยเหตุการณ์บางอย่างทำให้เขาต้องช่วยเหลือลูกสาวเพียงคนเดียวให้รอดจากการถูกลักพาตัวความน่าติดตามความสนุกเข้มข้น ต่อสู้แอ็กชัน เป็นซีรีส์แนวระทึกขวัญที่สร้างความตื่นเต้น และน่าติดตามชวนลุ้นไปกับเนื้อเรื่องที่ไม่ได้มีแค่ความหลอนหรือออกแนวจิตวิทยาอย่างเดียว ซึ่งเราพอจะเดาว่าใครเป็นฆาตกรต่อเนื่องได้นะคะ แต่เนื้อเรื่องอาจจะพลิกล็อคอีกก็ได้ยิ่งมีตัวละครเพิ่มเขามาให้น่าสงสัยอีกบอกเลยว่าตอนนี้คือเดาอะไรไม่ได้เลยค่ะ เพื่อน ๆ สามารถติดตามรับชมซีรีส์ซับไทยได้ทาง Viuชื่อเรื่อง : A Superior Day | 우월한 하루แนว : ระทึกขวัญจำนวนตอน : 8 ตอนช่วงเวลาออนแอร์ : 13 มีนาคม – 1 พฤษภาคม 2565วัน-เวลาออนแอร์ : ทุกวันอาทิตย์ เวลา 22.30 น. (เกาหลี)ซับไทยถูกลิขสิทธิ์ : VIUTrailer | ซีรีส์ A Superior Day บทความแนะนำจากนักเขียนม้าน้ำ5 ซีรีส์สืบสวนสอบสวน ฆาตกรรม ที่ไม่ควรพลาดส่องความน่ารักของคิมเซจอง หรือ ชินฮารี นางเอกสุดแสบในซีรีส์ Business Proposal นัดบอดวุ่น ลุ้นรักท่านประธานรู้จัก+เปิดวาร์ปนักแสดง Crazy Love ซีรีส์เกาหลีความรักวุ่นวายและหลอนประสาทที่มาของรูปภาพและวิดีโอOCN : ภาพหน้าปก 1 / 2 / ภาพประกอบ 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7Viu Thailand : Trailer | ซีรีส์ A Superior Dayเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !

"กวางหุ่ง" นักร้องเวียดนามร้องเพลง Dễ Đến Dễ Đi (4D) เวอร์ชั่นไทย เพื่อ muzik ชาวไทย
อ่าน

"กวางหุ่ง" นักร้องเวียดนามร้องเพลง Dễ Đến Dễ Đi (4D) เวอร์ชั่นไทย เพื่อ muzik ชาวไทย

"กวางหุ่ง" วัย 24 ปี ศิลปินชาวเวียนนาม เป็นที่รู้จักของแฟน ๆ ชาวไทย เพราะเพลง Dễ Đến Dễ Đi (4D) ผลงานเพลงล่าสุดของเขา ประสบความสำเร็จอย่างมาก ไม่เพียงแค่แฟนเพลงเวียดนาม แฟนเพลงชาวไทยและอีกหลาย ๆ ประเทศ ก็พากันติดตามฟังเพลงของเขา เพราะชอบในความน่ารักสดใส และน้ำเสียงนุ่ม ๆ ชวนฟัง สำหรับแฟนเพลงต่างชาติ แม้ว่าจะฟังภาษาเวียดนามไม่ออก แต่ดนตรีสื่อภาษาสากลก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะต่อให้ฟังภาษาไม่ออก เสียงจากเครื่องดนตรีของเวียดนามได้ผสมผสานกับดนตรีสากลได้อย่างไพเราะ ลงตัวกับเสียงของ "กวางหุ่ง" ทำให้คนที่ได้ฟัง อยากฟังซ้ำ ๆ จนยอดวิวใน Youtube เพิ่มมากขึ้นจนเกินหลัก 20 ล้านวิวอย่างรวดเร็ว และยังคงเพิ่มมากขึ้น ๆ ในทุก ๆ วันกระแสความชอบที่แฟนเพลงมีต่อ "กวางหุ่ง" เริ่มต้นจากความดังของเพลง Dễ Đến Dễ Đi (4D) เกิดจากการที่เนื้อเพลงช่วงท่อนฮุค ที่ "กวางหุ่ง" ร้อง ถูกตัดมาลงใน TikTok ไม่เพียงแต่ดังในเวียดนาม ยังดังไปยังประเทศต่าง ๆ ที่มีโอกาสได้ชมคลิปเพลงนี้ คนที่ได้ฟังเพลงค้นหาที่มาของเพลงจนได้รู้ว่าหนุ่มหน้าใสผู้ร้องเพลงนี้เป็นนักร้องชาวเวียดนาม ซึ่งมีผลงานออกมาแล้วหลายเพลง การที่ทุกคนพยายามจะทำความรู้จัก ทำให้ ”กวางหุ่ง” ดีใจมาก ที่ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาดขนาดนี้ เพราะกว่าจะมาถึงวันนี้เส้นทางการเป็นนักร้องของเขาไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย“กวางหุ่ง” เริ่มสนใจดนตรีมาตั้งแต่อายุ 13 ปี เขาชอบฟังเพลงมากและเมื่อฟังเพลงบ่อย ๆ จึงเริ่มฝึกเขียนเพลงมาเรื่อย ๆ ยอมแม้กระทั่งโดดเรียนเพื่อมานั่งทำเพลงในร้านอินเตอร์เน็ต ซึ่งส่งผลให้มีปัญหากับการเรียน และถูกทำโทษอยู่บ่อย ๆ กระทั่งอายุ 15 ปี เริ่มมีรายได้จากการทำเพลง แต่ก็ถูกมองว่าเป็นแค่เด็กรีมิกซ์เพลงบนอินเตอร์เน็ตเพื่อให้ดีเจเปิดเพลงในผับเท่านั้น และที่ทำให้รู้สึกแย่ไปกว่านั้นก็คือมีคนพูดว่าเขาก็คงทำงานเพลงได้แค่นี้ เพราะเสียงไม่เพราะเป็นนักร้องไม่ได้ แต่คำพูดนั้นไม่ได้ทำให้ "กวางหุ่ง" หยุดตามฝัน ยังคงมุ่งมั่นทำเพลงและร้องเพลงขณะที่อายุ 18 ปี ประสบการณ์ในการทำงานเพลงของ "กวางหุ่ง" เพิ่มมากขึ้น มีโอกาสได้ทำเพลง ได้ร่วมงานกับบริษัทเพลง ร้องเพลงกับศิลปินที่มีชื่อเสียงหลาย ๆ คน สิ่งที่ "กวางหุ่ง" ทำตลอดมาก็คือพยายามค้นหาสไตล์เพลงที่เหมาะสมกับตัวเอง ทำอย่างไรที่จะทำให้เพลงที่ร้องเป็นที่จดจำ ทำอย่างไรถึงจะทำให้น้ำเสียงเป็นที่จดจำ และที่สำคัญคือทำอย่างไรตัวเขาเองจะเป็นที่รู้จัก เส้นทางสายนี้สำหรับเขา เต็มไปด้วยความยากลำบาก ประสบการณ์ชีวิตแต่ละช่วงเวลา ทำให้เขาได้ประสบการณ์ในชีวิตก็จริง แต่บ่อยครั้งก็รู้สึกเศร้า เพราะยากเหลือเกินที่จะประสบความสำเร็จได้ มันเหมือนกับว่าเขาได้เดบิวต์ซ้ำแล้วซ้ำอีกแต่ก็ยังไม่ถึงฝั่งฝันการทำงานเพลงที่จะให้ประสบความสำเร็จได้จริง ๆ "กวางหุ่ง" รู้ดีว่าตัวเขาเท่านั้นที่จะทำให้เป็นจริงได้ ดังนั้นเขาจึงยังคงแต่งเพลง ทำงานเบื้องหลังทุกอย่างทั้งงานเพลง งานมิวสิควิดีโอภายใต้ชื่อ MasterD (มาสเตอร์ดี) และเป็น "กวางหุ่ง" ซึ่งเป็นนักร้อง ทุกบทบาทล้วนเป็นการทำงานอย่างหนักเพื่อให้งานเพลงออกมาดีที่สุด ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มสดใส เมื่อร้องเพลงให้แฟน ๆ ได้ฟัง ซึ่งนั่นคือเสน่ห์ที่ทำให้ "กวางหุ่ง" มีแฟนเพลงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อ เพลง Dễ Đến Dễ Đi (4D) เป็นที่รู้จักของแฟนเพลงชาวไทย สิ่งหนึ่งที่แฟน ๆ ทำก็คือพยายามที่จะสื่อสารกับ "กวางหุ่ง" ด้วยภาษาอังกฤษหรือด้วยภาษาเวียดนาม แม้จะไม่รู้ความหมายแต่ก็พยายามที่จะแปลภาษาเพื่อจะสื่อสารให้ได้ นั่นคือความพยายามของ Muzik แฟนคลับของเขา และคนไทยที่ได้ฟังเพลงแล้วอยากรู้จักเขาให้มากกว่าบทเพลงที่ได้ฟังhttps://www.youtube.com/watch?v=YV_U70X1Rsk "กวางหุ่ง" มีความสุขมาก เมื่อรู้ว่ามีแฟนคลับจากหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งแฟน ๆ ชาวไทย ดังนั้น ไม่เพียงแต่แฟน ๆ ที่พยายามที่จะสื่อสารกับเขาด้วยภาษาเวียดนามของเขา แต่ตัวเขาเองก็พยายามที่จะสื่อสารกับแฟน ๆ ชาวไทยด้วยภาษาไทยเช่นเดียวกัน หากได้ติดตามการไลฟ์สด ก็จะได้ฟังภาษาไทยสั้น ๆ เพื่อทักทายคนไทยเสมอ ๆ อาทิ "สวัสดีครับ ผมชื่อกวางหุ่ง มาสเตอร์ดีครับ", "ขอบคุณครับ", "รักนะครับ" ฯลฯ "กวางหุ่ง" ยังได้ร้องท่อนฮุคของเพลงเป็นภาษาไทย คลอด้วยเสียงเปียโน ด้วยความพยายามที่จะร้องภาษาไทยให้ถูกต้องที่สุด ชัดที่สุด ซึ่งความพยายามเพียงเท่านั้น ก็ว่าน่ารักแล้ว แต่ที่น่ารักยิ่งกว่าก็คือ "กวางหุ่ง" ไม่ได้พยายามเพื่อแฟนเพลงเพียงเท่านั้น แต่สิ่งที่เขาทำคือร้อง Dễ Đến Dễ Đi (4D) เวอร์ชั่นเพลงไทย ให้ฟังกันเลย    https://www.youtube.com/watch?v=UbNDM6XHvbMfeature=emb_logo Dễ Đến Dễ Đi (4D) เวอร์ชั่นเพลงไทย เป็นของขวัญสําหรับวันวาเลนไทน์ 2021 เพื่อแฟนเพลงชาวไทย เรียกว่าเป็นเซอร์ไพร์สที่ประทับใจแฟน ๆ อย่างมาก เพราะนึกไม่ถึงว่า "กวางหุ่ง" จะพยายามฝึกภาษาไทยอย่างหนักจนสามารถร้องเพลงไทยได้ดีขนาดนี้ ด้วยท่วงทำนองดนตรีเวียดนามกับคำในภาษาไทย เมื่อนำมารวมกันภายใต้กรอบของเนื้อเพลงที่ต้องเป็นการแปลภาษาให้ตรงกับเพลงต้นฉบับด้วย จึงเป็นเรื่องยากของ "กวางหุ่ง" แต่เขาก็พยายามจนได้ ถึงแม้ว่าบางคำยังไม่ชัดมาก แต่ก็สามารถเข้าใจได้ สิ่งที่ "กวางหุ่ง" ทำมาทั้งหมด ทำให้แฟน ๆ ประทับใจมาก ๆ ซึ่งความประทับใจนี้ แฟน ๆ ก็ตอบรับด้วยการฟังเพลงซ้ำแล้วซ้ำอีก จนทำให้เพลงติดเทรนด์อันดับ 3 ในประเทศไทยของ YouTube หลังจากการเปิดตัวเพียง 18 ชั่วโมงเท่านั้น และเพลงมียอดวิวเกิน 1 ล้านวิว อย่างรวดเร็ว ยอดวิวยังคงเพิ่มขึ้น ๆ เรื่อย ๆ (เราก็ยังฟังอยู่เรื่อย ๆ เช่นกัน^^)ครั้งแรกที่ได้ฟัง "กวางหุ่ง" ร้องเนื้อเพลงภาษาไทย "...ในคำว่ารัก ของเธอนั้นคือแบบไหน ที่ผ่านมาหรือแค่อยากให้ฉัน ทรมาน เลิกจากกัน ฉันคงทำได้เพียงยอมรับ มองเธอเดินแยกทางไป ไปกับใครที่ไม่ใช่ฉัน..." ยังร้องได้ไม่ค่อยชัด แต่ "กวางหุ่ง" ก็พยายามมาก ๆ เมื่อปล่อยเพลงออกมาให้ฟังกัน เขาร้องเพลงไทยได้ชัดขึ้นมาก ๆ และจะชัดขึ้นเรื่อย ๆ จากการร้องซ้ำ ๆ ของเขานี่แหละ และเราก็เชื่อว่าเมื่อ Dễ Đến Dễ Đi (4D) เวอร์ชั่นเพลงไทย เป็นเพลงไทยเพลงแรกของ "กวางหุ่ง" ก็น่าจะมีเพลงที่ 2....3...ตามมาอีก ตั้งใจรอเลยค่าาา^^เพื่อน ๆ ที่เพิ่งจะฟังเพลงของ  "กวางหุ่ง" ติดตามเขาได้ตามช่องทางด้านล่างเลยนะคะFacebook: Quang Hùng LêFanpage:  Quang Hùng MasterDIG:  quanghung.masterdIG Management: masterd.mgmV-Live Channel: Quang Hùng MasterDTik Tok:  qh.masterdอ่านเรื่องราว "กวางหุ่ง" By ฉันท์ชมา เพิ่มได้ค่ะ - ส่อง 5 ผลงานของ "กวางหุ่ง" หนุ่มเวียดนามดาวTiktokที่หลายคนหลงรัก  ขอบคุณภาพจาก IG quanghung.masterd 1, 2, 3 Twitter MASTERD 1, 2, 3, 4 

Google Docs และ Google Drive จะมีระบบ eSignatures ให้ใช้แล้ว
อ่าน

Google Docs และ Google Drive จะมีระบบ eSignatures ให้ใช้แล้ว

Google เพิ่มการรองรับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ หรือ eSignatures บน Google Docs และ Google Drive แล้ว โดยผู้ใช้งานจะสามารถขอลายเซ็นจากอีกฝ่ายหรือลงลายเซ็นแบบออนไลน์ในไฟล์ได้ ความสามารถในการเซ็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะคู่แข่งรายอื่น ๆ อย่าง Dropbox และ Adobe Acrobat ทำได้มานานแล้ว ภาพตัวอย่างฟีเจอร์ใหม่ (ที่มา Google Workspace) จากตัวอย่างฟีเจอร์ใหม่ที่ Google เผยให้เห็นว่าผู้ใช้จะสามารถขอลายเซ็นแบบเต็มหรือแบบย่อจากผู้รับไฟล์ครั้งเดียวหรือหลายครั้งก็ได้ และยังตั้งค่าให้ช่องวันที่เซ็นเป็นแบบกรอกอัตโนมัติได้ นอกจากนี้ Google จะเพิ่มระบบติดตามสถานะการเซ็นของผู้ที่เราขอเข้าไปด้วย แต่ความสามารถในการขอลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์นี้จะได้แค่เฉพาะผู้ที่ใช้ Gmail เท่านั้น ทั้งนี้ ฟีเจอร์ใหม่นี้ยังอยู่ในขั้น Beta ของผู้ลงทะเบียนใน Workspace บางรายเท่านั้น ยังไม่มีกำหนดว่าผู้ใช้งานทั่วไปจะได้ใช้เมื่อไร ที่มา The Verge